top of page

ล่ามข้ามภพ ตอนที่ ๑๐

  • รูปภาพนักเขียน: drpanthep
    drpanthep
  • 30 ม.ค. 2566
  • ยาว 1 นาที

ตอนที่ ๑๐


อาจารย์จีนหลับไม่ตื่นมาร่วม ๑๐ วันแล้ว วันนี้มีลูกศิษย์ทั้งศิษย์ปัจจุบันและศิษย์เก่ามาเยี่ยมกันมากมาย หลายคนดีใจที่ได้เจอปู่ เพราะรู้ว่าท่านคือพจนานุกรมที่มีชีวิตของตระกูลและอาจจะกล่าวได้ว่าท่านคือผู้ที่รู้เรื่องราวของชุมชนจีนโบราณในปัตตานีดีที่สุดไม่มีใครเทียม ช่วงหลังปู่ไม่ค่อยได้ไปออกงานเว้นแต่ตอบคำถามทางสื่อสังคมออนไลน์ อาจารย์จีนผู้สืบทอดมรดกด้านประวัติศาสตร์ท้องถิ่นจากปู่จึงต้องไปร่วมงานเวทีวิชาการหรือเวทีเสวนาต่าง ๆ แทนปู่


ปู่นั่งเอนหลังหลับตา ตั้งแต่เด็กตนเองชอบวิชาประวัติศาสตร์วันหนึ่งด้วยความซนไปรื้อโต๊ะทำงานเก่า ๆ ที่บ้านจนเจอเอกสารเก่าที่เขียนด้วยลายมือของปู่ตนเองเป็นบันทึกประวัติตระกูลทำให้สนใจที่จะค้นหาเรื่องราวของตระกูล ช่วงที่เรียนชั้นมัธยมปลายด้วยความที่เป็นเด็กบ้านนอกขาดการแนะแนว รู้เพียงแต่ว่าเด็กที่เรียนเก่งต้องสอบเข้ามหาวิทยาลัยโดยเลือกคณะแพทยศาสตร์หรือคณะวิศวกรรมศาสตร์เป็นหลัก ตนจึงสอบเข้าเรียนแพทย์หลังจบแล้วก็ไปเรียนต่อเป็นแพทย์เฉพาะทางศัลยศาสตร์ทรวงอกกลับไปเป็นอาจารย์อยู่ประมาณ ๑๐ ปี ช่วงที่ไปเรียนต่อเฉพาะทางเป็นช่วงที่ได้ไปค้นคว้าเรื่องราวของตระกูลเรื่องราวของปัตตานีจากหอสมุดแห่งชาติไว้เยอะ จนกลับไปเป็นอาจารย์จึงได้คิดรวบรวมประวัติตระกูลตั้งแต่บรรพบุรุษต้นตระกูล สามารถรวบรวมได้ทุกสายตระกูลตั้งแต่รุ่น ๑ จนถึงรุ่นที่ ๖-๗ รายละเอียดประมาณ ๘๐ เปอร์เซ็นต์ ผลพลอยได้จากการทำประวัติตระกูลคือทำให้ได้ศึกษาประวัติศาสตร์เมืองปัตตานียุคสมัยรัชกาลที่ ๕ อย่างละเอียด หลังจากเกษียณอายุราชการแล้วก็ใช้เวลาส่วนใหญ่กับการค้นคว้าข้อมูลจากแหล่งต่าง ๆ เพิ่มเติมทั้งเอกสารหรือทางอินเตอร์เน็ต ได้เขียนบทความประวัติตระกูล หรือเรื่องราวที่เกี่ยวกับชุมชนตลาดจีนไว้มากมาย เมื่อหลานชายคือจีนมีความสนใจในวิชาประวัติศาสตร์จึงเป็นที่พึงพอใจของปู่มากสนับสนุนให้หลานชายศึกษาจนจบระดับปริญญาเอก หวังว่าจะถ่ายทอดองค์ความรู้ต่าง ๆ ที่ตนได้เก็บเกี่ยวมาตลอดชีวิตให้หลานชายคนนี้ แต่ขณะนี้หลานชายกลับป่วยด้วยโรคประหลาดที่ไม่มีใครบอกได้ว่าเมื่อไรจึงจะมีอาการดีขึ้น เมื่อไรจึงจะหายขาด อาจารย์สมพลยังคงมาดูแลจีนทุกวัน จีนก็เหมือนคนนอนหลับทั่วไปเพียงแต่เป็นการหลับลึกที่เรียกไม่รู้สึกตัว แต่คนไข้สามารถพลิกตัวขยับร่างกายเองได้ ช่วงไหนที่นอนนิ่งในท่าเดิมนาน ๆ พยาบาลก็จะมาพลิกตัวเปลี่ยนท่าเพื่อป้องกันการเกิดแผลกดทับ เจ้าหน้าที่กายภาพบำบัดยังคงมาทำกายภาพบำบัดเพื่อให้กล้ามเนื้อต่าง ๆ ได้มีการขยับตัว ข้อต่อต่าง ๆ จะได้ไม่ยึดติด อาหารเหลวที่ป้อนทางสายยางซิลิโคนเข้าสู่กระเพาะอาหารโดยตรงก็ถูกคำนวณปริมาณอย่างดีจากนักโภชนาการและนักกำหนดอาหาร ร่างกายของจีนจึงดูสมบูรณ์ไม่ซูบผอมเหมือนคนป่วยทั่ว ๆ ไป

.........................................................


เหมืองถ้ำทะลุเป็นเหมืองที่ใหญ่ที่สุดในละแวกนี้ มีคนงานนับร้อยคน คนงานส่วนใหญ่เป็นคนจีนฮกเกี้ยนและคนไทยมีส่วนน้อยเป็นคนมลายู ถึงแม้ว่าจีนจะเกิดมาในตระกูลที่บรรพบุรุษก่อร่างสร้างตัวได้จากธุรกิจเหมืองแร่ แต่จีนมีความรู้เรื่องเหมืองแร่น้อยมาก ได้แต่อ่านจากเอกสารต่าง ๆ และฟังจากคำบอกเล่าของปู่ วันนี้จีนได้มาเห็นกับตาแล้วว่าเหมืองถ้ำทะลุยุคที่รุ่งเรืองมากเป็นอย่างไร เมื่อเดินออกไปนอกกงสีจะเห็นภูเขาหินปูนสูงตระหง่านมีร่องรอยของการพังทลายของภูเขาจากแรงระเบิดซึ่งซื้อแบบแลกขายกับฝรั่งอังกฤษ คนงานจำนวนมากกำลังขุดหินขุดดินใส่ปุ้งกี๋แล้วยกมาใส่รถเข็น คนงานอีกชุดหนึ่งจะเข็นรถเหล่านั้นไปที่โรงโม่ โรงโม่ที่เหมืองถ้ำทะลุใหญ่มากเรียกว่าโรงโม่ ๗ สาก หมายถึงมีเครื่องโม่หิน ๗ เครื่อง ที่เรียกว่า ๗ สาก เพราะลักษณะเป็นเหมือนครกกระเดื่องขนาดใหญ่ ๗ ชุด แต่ละชุดมีสากเหล็กขนาดใหญ่ยกขึ้นลงบดตำหินให้ละเอียด การทำงานของสากเหล็กเหล่านี้ใช้พลังน้ำ โดยที่ด้านหลังของโรงโม่จะเป็นลำธารขนาดใหญ่มี่น้ำไหลแรงเพราะไหลลงมาจากภูเขาสูง จะมีระหัดวิดน้ำรองรับน้ำในลำธารแรงดันของน้ำทำให้ระหัดหมุนแกนของระหัดจะถูกนำไปต่อกับแกนของสากเหล็ก ระหัดหมุนก็ทำให้สากถูกโยกขึ้นลงด้วยความแรง หินที่ถูกบดละเอียดจะถูกนำไปที่เตาเผา ใช้ความร้อนทำให้แร่หลอมละลายแยกออกจากดินและหิน จากนั้นคนงานก็จะนำไปผ่านน้ำทำให้แร่จับตัวเป็นก้อน นำไปแยกรวมไว้เพื่อชั่งน้ำหนักและส่งไปขายต่อไป เมื่อเห็นกระบวนการเผาแร่จีนจึงหายสงสัยว่าเหตุใดเมื่อเดินเข้ามาในบริเวณเหมืองถ้ำทะลุชายหนุ่มจึงได้กลิ่นเหม็นจนแสบจมูก กลิ่นนั้นเกิดจากการเผาแร่ตะกั่วซัลไฟด์นั่นเอง


ไอ้หลงให้คนงานเหมืองนำจีนและคณะเดินไปด้านหน้าเหมืองซึ่งเป็นภูเขาหินปูนไม่สูงมากนัก ที่ภูเขานี้มีถ้ำขนาดใหญ่เมื่อเดินลึกเข้าไปภายในจะเจอทางออกเล็ก ๆ เป็นที่มาของชื่อถ้ำทะลุ จีนคิดถึงเรื่องราวของศาลเจ้าฮุดโจ้วถ้ำทะลุที่ปู่เคยนำภาพถ่ายมาให้ดูแล้วเล่าว่าที่ถ้ำนี้ขุนจำเริญภักดี(ตันบั่นฮก) บุตรชายคนโตของพระจีนคณานุรักษ์(ตันจูล้าย) ได้นำเจ้าแม่กวนอิมหรือที่เรียกว่าฮุดโจ้วมาประดิษฐานไว้ที่ชะง่อนหินในถ้ำ ต่อมาพระจีนคณานุรักษ์ได้บูรณะเป็นศาลเจ้าขึ้น แต่ในเบื้องหน้าจีนขณะนี้เป็นเพียงถ้ำว่าง ๆ ไม่มีศาลเจ้าแต่อย่างใด เพราะจีนย้อนกลับมาในยุคก่อนที่จะมีการทำศาลเจ้า และจีนไม่เคยมาที่นี่เลยบอกไม่ได้ว่าชะง่อนหินตรงไหนเป็นที่ประดิษฐานเจ้าแม่กวนอิมในภายหลัง วันนี้เราไม่ต้องใช้บริการพ่อครัวของเราเพราะเราไปร่วมกินอาหารเย็นกับคนงานเหมืองที่มีโรงครัวขนาดใหญ่ทำอาหารวันละ ๓ มื้อ มีการต้มน้ำร้อนเพื่อชงน้ำชากาแฟตลอด ๒๔ ชั่วโมง ช่วงกลางคืนมีการจุดไต้จุดตะเกียงสว่างไสวไปทั่วบริเวณ ไอ้หลงได้จัดเตรียมที่นอนภายในกงสีให้จีนและมิสเตอร์คาเมรอน มิสเตอร์โคลท์

.........................................................



โพสต์ล่าสุด

ดูทั้งหมด
ล่ามข้ามภพ ตอนที่ ๑๖

ตอนที่ ๑๖ วันนี้เป็นวันที่มีพิธีสมโภชพระหมอจ๊อซูก๋อง มีเสียงกลองเสียงระฆังดังทั่วตลาดจีนตั้งแต่ ๒ ยามจนถึงย่ำรุ่ง...

 
 
 
ล่ามข้ามภพ ตอนที่ ๑๕

ตอนที่ ๑๕ วันนี้เป็นวันชิวอิด หรือวันที่ ๑ เดือน ๑ ตามปีปฏิทินจีนคือวันตรุษจีน ที่ตลาดจีนคึกคักมาก หน้าบ้านทุกหลังมีโคมเต็งลั้งแขวนอย่างเ...

 
 
 

ความคิดเห็น


เว็บไซต์นี้จัดทำเพื่อรวบรวมรายชื่อทายาทหลวงสำเร็จกิจกรจางวาง(ตันเตียงสิ่น)ทุกสายสกุล และมีเรื่องราวต่าง ๆ ของตระกูลและท้องถิ่น รวมถึงนานาสรรพสาระต่าง ๆ

bottom of page