top of page

ล่ามข้ามภพ ตอนที่ ๑๗

  • รูปภาพนักเขียน: drpanthep
    drpanthep
  • 30 ม.ค. 2566
  • ยาว 1 นาที

ตอนที่ ๑๗


ที่บ้านกงสีคึกคักอีกครั้งหนึ่งเพราะเป็นช่วงของการบำเพ็ญกุศลศพตันจูฮวด เนื่องจากตันจูฮวดไม่มีบุตรภรรยาหากทำศพแบบจีนคือฝังก็เกรงว่าภายหน้าจะไม่มีทายาทไปเซ่นไหว้ ตันจูล้ายจึงตัดสินใจที่จะทำพิธีศพน้องชายคนนี้แบบไทยคือเผา หลังจากตันจูฮวดสิ้นลมลงตันจูล้ายก็ให้คนไปตระเวนหาน้ำผึ้งรวงมาเพื่อกรอกปากศพเป็นการถนอมศพให้เน่าเปื่อยช้า จากนั้นก็ทำการอาบน้ำเปลี่ยนเครื่องแต่งกายเป็นชุดสีแดงที่จีนหรือตันจูฮวดสวมในวันตรุษจีนที่ผ่านมา ตันจูล้ายให้ช่างไม้ต่อโลงขึ้นใหม่ยารอยต่อด้วยชันเพื่อป้องกันกลิ่น จากนั้นปูด้วยกระดาษสาแล้วโรยผงชาจีนลงไปก่อนจะปูด้วยกระดาษสาอีกชั้นเพื่อดูดซับน้ำเหลือง หลังจากบรรจุศพแล้วก็ประดับประดาโลงด้วยไม้หอมสารพัด มีการสวดพระอภิธรรมตามธรรมเนียมไทยทุกคืนโดยท่านพระครูพิพัฒสมณกิจ เจ้าอาวาสวัดบางน้ำจืดและพระลูกวัดติดต่อกัน ๓ วัน จากนั้นจึงทำพิธีฌาปนกิจที่ป่าช้าหัวตลาดซึ่งอยู่ปลายสุดถนนตลาดจีนฝั่งตะวันออก ตันจูล้ายให้คนโค่นต้นหมากขนาดใหญ่มา ๔ ต้นผูกเป็นเมรุดาดด้วยผ้าขาว มีช่างแทงหยวกจากเมืองหนองจิกมาช่วยกันแทงหยวกเป็นลายกนกประดับเมรุอย่างสวยงาม หลังจากเปิดโลงมองดูแล้วเหมือนตันจูฮวดนอนหลับอยู่ในโลง ท่านพระครูพิพัฒฯและพระลูกวัดอีก ๓ รูป ชักผ้าบังสุกุล ตันจูล้ายเป็นผู้จุดเพลิง คืนนั้นมีมหรสพเล่นทั้งหนังตะลุง และมะโย่งจนถึงรุ่งเช้า ตันจูล้ายได้เก็บอัฐิของน้องชายบรรจุลงโกศขนาดเล็กแล้วนำไปไว้ในถ้ำเดียวกับที่เก็บรักษาป้ายบูชาหลวงสำเร็จกิจกรจางวาง(ตันเตียงซิ่น) ผู้เป็นบิดาที่บ้านกงสี เป็นการปิดตำนานของอัจฉริยะแห่งตระกูลผู้ที่เป็นปริศนาต่อผู้คนทั่วไปว่าเกิดอะไรกับชีวิตของท่าน

...........................................................


จีนลืมตาขึ้นมารู้สึกแปลกที่ เราจำได้ว่าเราอยู่ในร่างของบรรพบุรุษคือตันจูฮวดและนอนป่วยอยู่ที่บ้านกงสี แล้วนี่มันที่ไหนกัน ชายหนุ่มลุกขึ้นนั่งแล้วมองไปรอบตัว อะไรกันนะ เราอยู่ที่โรงพยาบาลหรือนี่ เรื่องทั้งหมดเป็นเพียงความฝันของเราเมื่อคืนนี้เองหรือนี่ เซนเซอร์จับการเคลื่อนไหวของผู้ป่วยดังขึ้นที่เคาน์เตอร์พยาบาล กล้องวงจรปิดเห็นผู้ป่วยที่หลับใหลไปร่วมปีลุกขึ้นนั่ง อาจารย์สมพลถูกตามตัวมาด่วน อาจารย์มาถามอาการจากจีน ชายหนุ่มบอกว่าไม่มีอาการผิดปกติอะไรนอกจากรู้สึกงงเหมือนเพิ่งตื่นจากความฝัน อาจารย์ตรวจร่างกายไม่พบความผิดปกติใด ๆ จึงนำจีนไปตรวจสมองด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า และตรวจคลื่นสมองซึ่งผลการตรวจทุกอย่างปกติดีเช่นเดิม


เมื่อตรวจเสร็จก็เป็นเวลาที่พ่อแม่ปู่ย่าเดินทางมาถึงโรงพยาบาลพอดี ทุกคนเข้ามากอดจีนด้วยความดีใจที่ชายหนุ่มตื่นจากการหลับใหลเสียที จีนมีสีหน้างุนงงแปลกใจในพฤติกรรมของทุกคน พ่อบอกว่าจีนป่วยด้วยโรค Kleine-Levin Syndrome หลับไม่ตื่นเลยไปเป็นเวลาร่วมปี จนได้รับยา TSF ซึ่งเป็นผลจากการค้นคว้าวิจัยโดยทีมนักวิจัยจากประเทศเยอรมัน ทำให้หายป่วย จีนล้มตัวลงนอนหลับตา พระเจ้า! นี่เราหลับไปนานถึง ๑ ปีเลยหรือ แล้วเหตุการณ์ที่เราเจอมาก่อนหน้านี้เป็นเพียงความฝันหรือเป็นเรื่องจริงกันนี่ การเป็นล่ามข้ามภพของเราเป็นความฝันหรือจริง

...........................................................


จีนเปิดประตูห้องหนังสือเห็นปู่ถือรูปภาพเก่า ๆ รูปหนึ่งอยู่ในมือและนั่งจ้องรูปภาพนั้นนิ่ง จีนถามปู่ว่าเป็นรูปอะไร ปู่บอกว่านี่เป็นโกศเล็ก ๆ ใบหนึ่งที่ปู่เห็นมันวางอยู่ในถ้ำป้ายบูชาหลวงสำเร็จกิจกรจางวาง (ตันเตียงซิ่น) ต้นตระกูลของเราที่แท่นบูชาบ้านกงสีที่ปัตตานี ปู่เปิดดูภายในไม่มีอะไรอยู่ในโกศเคยถามญาติผู้ใหญ่หลายคนไม่มีใครตอบได้ว่านี่เป็นโกศของใคร เป็นปริศนาที่ปู่พยายามค้นหาคำตอบมาไม่ต่ำกว่า ๗๐ ปีแล้วแต่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะได้คำตอบ


ปู่วางภาพถ่ายนั้นลงแล้วบอกจีนว่าปู่มีอะไรจะให้จีนดู ว่าแล้วก็หยิบบทความเรื่อง My Memoir ของ J.C. Colt ที่ปู่พิมพ์มาจากเว็บเพจเอกสารโบราณของมหาวิทยาลัยออกฟอร์ดมาให้จีนอ่าน จีนอ่านจบเงยหน้ามองปู่ ปู่บอกว่านี่เป็นเรื่องราวของตันจูฮวดที่เราตามหามานาน


จีนจ้องตาปู่แล้วเข้าสวมกอดปู่พร้อมกับพูดขึ้นว่า... “ปู่ครับ จีนเคยเจอมิสเตอร์โคลท์ครับ”


.................จบบริบูรณ์..................


ปัจฉิมบทของผู้เขียน


นิยายเรื่องนี้ผู้เขียนเขียนล้อนิยายที่ชื่นชอบ ๒ เรื่องคือทวิภพของทมยันตี และบุพเพสันนิวาสของรอมแพง โดยนำ ๒ เรื่องราวของตระกูลมาผูกเป็นเนื้อเรื่องนั่นคือชื่อตันจูฮวด ซึ่งเป็นบรรพบุรุษของตระกูลคณานุรักษ์ เป็นทายาทหลวงสำเร็จกิจกรจางวาง(ตันเตียงซิ่น) ชั้นที่ ๒ ซึ่งจากการรวบรวมประวัติตระกูลบอกว่าตันจูฮวดถึงแก่กรรมตั้งแต่หนุ่มไม่มีภรรยาโดยที่ไม่มีรายละเอียดอื่น ๆ อีกเลย อีกเรื่องคือโกศเปล่าที่อยู่ภายในถ้ำบรรจุป้ายบูชาบรรพบุรุษที่บ้านกงสีซึ่งเป็นบ้านของหลวงสำเร็จกิจกรจางวางต้นตระกูลคณานุรักษ์ โกศนี้เป็นโกศเปล่าภายในไม่มีอะไร ไม่ทราบที่มาว่าเป็นโกศใคร


ree

โกศปริศนาที่บ้านกงสี


จากนั้นนำเรื่องราวเหตุการณ์และสภาพบ้านเมืองปัตตานีในอดีตจากบทความเรื่อง On The Pattani ของ William Cameron ที่ตีพิมพ์ในวารสาร Journal of the Straits Branch of the Royal Asaitic Society ฉบับเดือนมิถุนายน ค.ศ.๑๘๘๓ และจากพระนิพนธ์ของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช ในคราวเสด็จประพาสเมืองปัตตานีเมื่อ พ.ศ.๒๔๒๗ ในหนังสือชีวิวัฒน์ มาผูกกันเข้ากับเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ของชุมชนตลาดจีนหรือกือดาจีนอ จากประวัติตระกูลทายาทหลวงสำเร็จกิจกรจางวางที่ผู้เขียนค้นคว้าจากแหล่งต่าง ๆ มาตลอดชีวิต ผนวกกับความรู้ทางการแพทย์อีกเล็กน้อย


สำนวนของนิยายเรื่องนี้อาจจะไม่สวยงาม เพราะในอดีตนั้นผู้เขียนนั้นได้ชื่อว่าเป็นนักเรียนที่เกลียดวิชาเรียงความที่สุด แต่ก็พยายามนำความรู้ที่มีอยู่ในสมองมาร้อยเรียงกับจินตนาการส่วนตัวให้เป็นถ้อยคำเท่าที่ตนเองสามารถทำได้ ได้แต่หวังว่าเมื่ออ่านนิยายเรื่องนี้จบแล้ว จะจุดชนวนทำให้ผู้อ่านได้สนใจค้นคว้าเรื่องราวประวัติศาสตร์ท้องถิ่น เรื่องราวประวัติตระกูลกันบ้าง

...........................................................




โพสต์ล่าสุด

ดูทั้งหมด
ล่ามข้ามภพ ตอนที่ ๑๖

ตอนที่ ๑๖ วันนี้เป็นวันที่มีพิธีสมโภชพระหมอจ๊อซูก๋อง มีเสียงกลองเสียงระฆังดังทั่วตลาดจีนตั้งแต่ ๒ ยามจนถึงย่ำรุ่ง...

 
 
 
ล่ามข้ามภพ ตอนที่ ๑๕

ตอนที่ ๑๕ วันนี้เป็นวันชิวอิด หรือวันที่ ๑ เดือน ๑ ตามปีปฏิทินจีนคือวันตรุษจีน ที่ตลาดจีนคึกคักมาก หน้าบ้านทุกหลังมีโคมเต็งลั้งแขวนอย่างเ...

 
 
 
ล่ามข้ามภพ ตอนที่ ๑๔

ตอนที่ ๑๔ กิจวัตรประจำวันของจีนยามว่างจากการช่วยพี่ชายแล้วคือการเดินสำรวจเมืองปัตตานี นี่เป็นโอกาสดีทีเดียวที่จะได้เห็นได้สัมผัสกับปัตตาน...

 
 
 

ความคิดเห็น


เว็บไซต์นี้จัดทำเพื่อรวบรวมรายชื่อทายาทหลวงสำเร็จกิจกรจางวาง(ตันเตียงสิ่น)ทุกสายสกุล และมีเรื่องราวต่าง ๆ ของตระกูลและท้องถิ่น รวมถึงนานาสรรพสาระต่าง ๆ

bottom of page