ล่ามข้ามภพ ตอนที่ ๑๖
- drpanthep
- 30 ม.ค. 2566
- ยาว 1 นาที
ตอนที่ ๑๖
วันนี้เป็นวันที่มีพิธีสมโภชพระหมอจ๊อซูก๋อง มีเสียงกลองเสียงระฆังดังทั่วตลาดจีนตั้งแต่ ๒ ยามจนถึงย่ำรุ่ง ปีนี้พิเศษกว่าอดีตที่ผ่านมาเพราะจีนคุ้นเคยกับพิธีหามพระลุยน้ำลุยไฟของศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวมาตั้งแต่เด็ก ๆ ได้ฟังปู่เล่าถึงเรื่องราวการหามพระในยุคต่าง ๆ ซึ่งปู่บอกว่าไม่มีการบันทึกว่าพิธีหามพระลุยน้ำลุยไฟเริ่มตั้งแต่ปีไหน มาปีนี้จีนซึ่งอยู่ในร่างของตันจูฮวดซึ่งได้รับมอบหมายให้เป็นผู้จัดการพิธีสมโภชจึงได้ปรึกษากับตันจูล้ายผู้เป็นกัปตันจีนและบรรดาผู้หลักผู้ใหญ่ตลอดจนซินแสตันเสี้ยนผู้เป็นเจ้าพิธีกรรมของศาลเจ้าจ๊อซูก๋องว่าน่าจะให้มีพิธีกรรมแบบเต๋าฮวดบุ๋นเพิ่มคือการหามเกี้ยวพระต่าง ๆ ตระเวนตามท้องตลาดจีนเพื่อเป็นสิริมงคลแก่บ้านเมือง แล้วไปลุยแม่น้ำปัตตานีเพื่อขจัดเภทภัยกับแม่น้ำสายหลักที่ชาวจีนเมืองปัตตานีใช้ทำการค้าขาย จากนั้นก็กลับมาลุยไฟ หลังจากถกกันแล้วทุกคนเห็นดีด้วย ปีนี้จึงเป็นปีแรกที่จะเริ่มพิธีกรรมนี้ แต่บังเอิญที่ตันจูฮวดเกิดมาล้มป่วยด้วยไข้ปัสสาวะดำเสียก่อนเริ่มงานไม่กี่วัน
ตอนเที่ยงคืนในวันที่ ๑๔ เดือน ๑ ตันจูล้ายได้มาเป็นประธานจุดธูปเทียนบวงสรวงพระหมอจ๊อซู
ก๋องและองค์เทพต่าง ๆ จากนั้นก็ทำการทอดเบี้ยถามฤกษ์ต่าง ๆ และลำดับการเชิญพระลงประทับเกี้ยว มีการตีกลองตีระฆังตลอดเวลา แต่ละเกี้ยวจะมีคานหามใช้คนหาม ๔ คน หลังจากอัญเชิญพระลงประทับเกี้ยวทุกองค์แล้วผู้ที่หามเกี้ยวพระจะเข้าประจำที่ถูกรมด้วยควันธูปควันกำยานเพื่อเข้าสู่ภวังค์ ซินแสตันเสี้ยนจะทำพิธีอัญเชิญองค์เทพต่าง ๆ ประทับร่างทรง บรรดาร่างทรงจะทำพิธีกรรมต่าง ๆ กันไปบ้างก็กรีดลิ้นนำเลือดมาเขียนฮู้หรือยันตร์ บ้างก็ทำน้ำมนตร์ จนถึงเวลาย่ำรุ่งก่อนฟ้าจะสว่างร่างทรงองค์ประธานก็ไปยกเกี้ยวพระหมอจ๊อซูก๋องลอยขึ้นผู้หามทั้ง ๔ คนซึ่งอยู่ในอาการภวังค์ก็ลุกขึ้นยืนหลับตายืนส่ายโงนเงนอยู่กับที่สักพักก็เดินออกไปจากศาลเจ้า ร่างทรงจะไปทำพิธียกเกี้ยวจนครบทุกเกี้ยว เมื่อเกี้ยวพระหมอจ๊อซูก๋องออกจากศาลเจ้าแล้วจะเดินไปยังลานหน้าศาลเจ้าแล้วทำพิธีปักหลัก ๒ ข้าง การปักหลักเป็นพิธีกรรมเต๋าสำนักเหมาซานเพื่อบอกว่านี่เป็นอาณาเขตที่พระหมอจ๊อซูก๋องคอยดูแลไม่ให้มีเภทภัย หลักนี้ทำจากไม้ไผ่เรียกว่าเต็กฮู้ จากนั้นจะไปปักหลักที่หัวถนนตลาดจีนด้านทิศตะวันออก แล้วเดินไปตามถนนตลาดจีนแวะให้ชาวบ้านทำการสักการะ จนกระทั่งถึงบ้านของตันจูล้ายคนหามเกี้ยวจะเดินไปปักหลังในสวนหลังบ้านเป็นบ้านเดียวที่มีการปักหลักภายในบ้าน เมื่อถึงประตูใหญ่ตลาดจีนขบวนหามเกี้ยวพระจะเดินเลี้ยวเลียบถนนริมแม่น้ำไปจนถึงริมคลองอาเนาะซูงาแล้วปักหลัก จากนั้นเดินย้อนกลับมาจนถึงท่าน้ำตลาดจีนทำการปักหลักแล้วผู้หามเกี้ยวจะหามเกี้ยวลงไปในแม่น้ำตรงท่าน้ำ เสร็จจากพิธีลุยน้ำก็จะเดินกลับไปที่หน้าศาลเจ้าเพื่อทำพิธีลุยไฟ
ตั้งแต่ช่วงที่เริ่มพิธีกรรมตอนเที่ยงคืน ถึงแม้เสียงกลองเสียงระฆังจะดังไปทั่วตลาดจีนแต่จีนไม่มีโอกาสได้รับรู้ ชายหนุ่มในร่างของตันจูฮวดมีไข้สูงเพ้อตลอดเวลา ปัสสาวะออกน้อยเป็นสีดำสนิท ไอ้หลงต้องคอยเช็ดตัวเพื่อลดไข้และคอยหยอดยาต้มเข้าปากเนื่องจากเถ้าแก่ของมันอ้าปากกินยาไม่ได้ จนช่วงย่ำรุ่งจึงหยุดเพ้อแต่ยังคงมีไข้หนาวสั่นนอนหายใจรวยริน ตัวซีด ริมฝีปากแห้งแตก ช่วงเช้าระหว่างที่ขบวนเกี้ยวพระเสร็จจากพิธีลุยน้ำกำลังเดินกลับเพื่อไปทำพิธีลุยไฟที่หน้าศาลเจ้า เมื่อเกี้ยวพระหมอเจาซูก๋องเดินมาถึงหน้าบ้านกงสีที่จีนหรือตันจูฮวดนอนป่วยอยู่ด้านในคนหามเกี้ยวได้เดินเข้าไปในบ้านโดยที่มิได้มีการกำหนดไว้ในขั้นตอนพิธีกรรม ซินแสตันเสี้ยนซึ่งเดินคุมขบวนได้บอกกับตันจูล้ายว่าเป็นความประสงค์ของพระหมอจ๊อซูก๋องที่จะเข้ามาเยี่ยมเยียนตันจูฮวด ตันจูล้ายจึงได้จุดธูปใส่มือตันจูฮวดแล้วนำไปปักที่เกี้ยวพระหมอจ๊อซูก๋อง
ช่วงสาย ๆ ตอนที่กำลังมีพิธีลุยไฟที่ลานหน้าศาลเจ้าจ๊อซูก๋อง ไอ้หลงซึ่งดูแลตันจูฮวดอยู่ภายในห้องได้ยินเสียงกึกกักดังที่ห้องโถงจึงเดินออกไปดู มันถึงกับขนลุกซู่เพราะภาพที่เห็นเบื้องหน้าคือพระกุนเต้กุนไม้แกะสลักที่อยู่ในถ้ำพระบนแท่นบูชากลางห้องโถงสั่นเหมือนโดนใครจับโยกเป็นที่น่าอัศจรรย์ยิ่งนัก ไอ้หลงให้คนรีบไปตามตันจูล้ายมาด่วน เมื่อมาถึงตันจูล้ายรีบจุดธูปบูชาพระกุนเต้กุนแล้วเข้าไปนั่งข้าง ๆ ตันจูฮวดซึ่งนอนไม่ได้สติหายใจรวยริน ท่านกุมมือน้องชายไว้แน่นจ้องมองน้องชายน้ำตาไหลอาบแก้ม สักพักก็วางมือตันจูฮวดลงหันมาบอกไอ้หลงว่าเถ้าแก่ของมันจากโลกนี้ไปแล้ว เท่านั้นเองเสียงไอ้หลงร้องไห้โฮดังลั่นไปหลายบ้าน
............................................
วันนี้ครบ ๓ วันหลังจากที่ฉีด TSF ให้จีนครบ ๗ วันติดต่อกัน ยังไม่มีทีท่าว่าจีนจะตื่นจากการหลับลึก มีการตรวจร่างกายอย่างละเอียด ส่งเลือด ปัสสาวะตรวจทางห้องปฏิบัติการ ตรวจสมองด้วยคลื่นแม่เหล็ก และตรวจคลื่นสมองเช่นเคย อาจารย์สมพลและศาสตราจารย์มุลเลอร์มีสีหน้าเคร่งเครียด เพราะผลการตรวจทุกอย่างยังคงปกติ ศาสตราจารย์มุลเลอร์บอกว่าหากครบ ๕ วันแล้วจีนยังไม่ฟื้นแสดงว่าเจ้า TSF ยังไม่ได้ผลในคนซึ่งต่างจากในสัตว์ทดลอง ทั้งปู่ย่าพ่อแม่ต่างก็เคร่งเครียดเพราะรู้ดีว่านี่เป็นโอกาสเดียวเท่านั้นที่จีนจะฟื้นตื่นขึ้นมา
คืนนั้นปู่กลับไปถึงบ้านก็อาบน้ำอาบท่าแล้วเข้าห้องพระทำการสวดชัยมงคลคาถา แล้วขอพรจากพระหมอจ๊อซูก๋อง เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว พระจ่ายเส่งเอี้ย พระกุนเต้กุน จากนั้นก็ไหวบรรพบุรุษทั้งหลาย ปู่ใช้เวลาอยู่ในห้องพระพักใหญ่ก็เข้าไปนั่งอ่านทบทวนประวัติทายาทหลวงสำเร็จกิจกรจางวาง(ตันเตียงซิ่น)ที่ปู่เป็นผู้รวบรวมขึ้นเมื่อ ๗๐-๘๐ ปีก่อน แล้วก็อ่านบทความ My Memoir ของ J.C. Colt ที่เพิ่งเผยแพร่และมีการกล่าวถึงตันจูฮวดซ้ำแล้วซ้ำอีกจนหลับไปไม่รู้ตัว
............................................

ความคิดเห็น