top of page

ล่ามข้ามภพ ตอนที่ ๔

  • รูปภาพนักเขียน: drpanthep
    drpanthep
  • 30 ม.ค. 2566
  • ยาว 1 นาที

ตอนที่ ๔


เช้านี้จีนตื่นสายเขารู้สึกว่าเขาหลับไปนานด้วยความอ่อนเพลีย เมื่อมองไปรอบ ๆ นี่มันไม่ใช่ห้องนอนที่บ้านนี่แล้วเขามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร จำได้ว่าเมื่อคืนหลังจากคุยกับปู่แล้วนั่งทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์จนง่วงจึงเข้านอน จีนลุกขึ้นนั่งจึงเห็นว่าเขานอนอยู่บนเตียงไม้แกะสลักแบบจีนโบราณที่ยังอยู่ในสภาพใหม่วางชิดผนังปูนของห้องเล็ก ๆ เป็นห้องทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าด้านสั้นทั้ง ๒ ด้านมีหน้าต่างลูกกรงไม้ ผนังด้านยาวด้านหนึ่งทึบอีกด้านมีประตูไม้แบบจีน ๒ ประตู จีนรู้สึกคุ้นตากับห้องลักษณะนี้แต่นึกไม่ออกว่าเคยเห็นที่ไหน ภายในห้องมีกลิ่นฉุนเหมือนที่จีนเคยได้กลิ่นตอนไปศึกษาเรื่องราวของยาสมุนไพรในพิพิธภัณฑ์ยาสมุนไพร ที่โต๊ะข้างเตียงมีหม้อดินใบเล็ก ๆแล้วถ้วยอีก ๑ ใบ กลิ่นยาออกมาจากหม้อดินใบนั้น จีนลุกขึ้นยืนรู้สึกมึนงงเล็กน้อยจนต้องรีบเกาะเสาเตียงไว้ ทำไมเขาอยู่ในชุดเสื้อคอกลมผ้าป่านกางเกงแพร


เมื่อค่อย ๆ เดินออกมานอกห้องภายนอกห้องเป็นห้องโถงตรงกลางมีแท่นบูชาขนาดใหญ่ ๑ ตัว ขนาดเล็ก ๑ ตัว โต๊ะบูชาขนาดใหญ่เต็มไปด้วยเทพเจ้าจีนสารพัดที่เด่นชัดคือพระกุนเต้กุนและพระจ่ายเส่งเอี้ย โต๊ะบูชาตัวเล็กมีถ้ำบรรจุป้ายบูชาบรรพบุรุษ จีนบอกตัวเองว่านี่มันที่บ้านกงสีบ้านต้นตระกูลของเราที่ปัตตานีนี่แต่ทำไมทุกสิ่งทุกอย่างยังอยู่ในสภาพใหม่ต่างจากที่เคยเห็น มีเสียงตะโกนด้วยความดีใจเป็นภาษาปักษ์ใต้เหมือนที่เขาเคยได้ยินปู่พูดให้ฟังบ่อย ๆ ว่าเถ้าแก่ตื่นแล้ว เถ้าแก่ตื่นแล้ว จีนหันไปมองเห็นเด็กหนุ่มคนหนึ่งนุ่งกางเกงขาสามส่วนไม่สวมเสื้อวิ่งไปทางหน้าบ้าน


สักพักมีคนกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามาผู้ที่เดินนำเป็นชายวัยกลางคนรูปร่างสูงโปร่งหน้าตาคมคายไว้ผมเปียสวมเสื้อคอกลมสีขาวและกางเกงแพรสีดำ จีนจำได้แม่นว่าชายผู้นี้คือหลวงจีนคณานุรักษ์ที่จีนเห็นจากรูปถ่ายมาตั้งแต่จำความได้ เป็นบรรพบุรุษที่ปู่บอกว่าจีนมีใบหน้าเหมือนท่านดั่งฝาแฝด ท่านรีบเดินเข้ามาจับไหล่ประคองจีนเดินกลับเข้าห้องแล้วพูดด้วยสำเนียงอ่อนโยนเป็นภาษาปักษ์ใต้ว่าจูฮวดเจ้าหมดสติไป ๑ วัน ๑ คืน เฮียเป็นห่วงมากได้ให้บ่าวต้มยาป้อนให้เจ้านี่คงเป็นเพราะยานั้นทำให้เจ้าฟื้นขึ้นมา เจ้าต้องนอนพักให้ร่างกายแข็งแรงก่อนอย่าเพิ่งรีบลุกไปไหน โอ้ว! จูฮวด ตันจูฮวด จีนตะโกนลั่นในใจอะไรกันนี่ ชายหนุ่มรู้สึกสับสนมึนงงกับสิ่งที่เจอจนต้องเอามือกุมศีรษะ พระเจ้าช่วย! นี่เขาไว้ผมเปียหรือนี่ จีนเอนกายลงนอนลืมตาโพลงครุ่นคิดว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขา หลวงจีนคณานุรักษ์เอ่ยเบา ๆ ว่าจูฮวดเจ้านอนพักเถิดเฮียจะให้ไอ้หลงคอยดูแลเจ้า แล้วหันไปสั่งเด็กหนุ่มผู้ที่ตะโกนร้องด้วยความดีใจเมื่อเห็นจีนว่าให้คอยป้อนยาให้จีนตามเวลาก่อนจะพากันเดินกลับไป

....................................................


ณ โรงพยาบาล วันนี้อาจารย์สมพลซึ่งเป็นอายุรแพทย์ด้านประสาทวิทยาอันดับ ๑ ของเมืองไทยมาดูจีนตามที่แพทย์เจ้าของไข้ปรึกษาไป เนื่องจากจีนเป็นผู้ป่วยที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรค Kleine-Levin Syndrome รายแรกของประเทศไทย จีนในชุดผู้ป่วยนอนเหมือนคนหลับสนิท ผลการตรวจสัญญาณชีพทั้งอัตราการเต้นของหัวใจ อัตราการหายใจ ระดับความดันโลหิตและอุณหภูมิร่างกายอยู่ในเกณฑ์ปกติ การตรวจทางระบบประสาทไม่ตอบสนองต่อเสียงเรียก ขยับแขนขาได้เองและชักหนีเมื่อถูกกระตุ้นด้วยความเจ็บ รูม่านตา ๒ ข้างตอบสนองต่อแสงดี จอประสาทตาปกติ ไม่มีอาการหรืออาการแสดงที่บ่งบอกว่ามีภาวะผิดปกติภายในสมองจากก้อนเนื้องอกหรือก้อนเลือด ผลการตรวจเลือดไม่พบหลักฐานที่บ่งถึงภาวะติดเชื้อ ไม่พบความผิดปกติของระดับอิเลกโตรไลต์ในเลือด อาจารย์สมพลขอให้ทำการตรวจคลื่นสมองซ้ำอีกครั้ง ผลตรวจคลื่นสมองไม่พบความผิดปกติของกระแสไฟฟ้าในคลื่นสมอง ไม่พบจุดกำเนิดกระแสไฟฟ้าผิดปกติที่อาจจะทำให้เกิดอาการของโรคลมชัก อาจารย์สมพลได้อธิบายให้ปู่ซึ่งเป็นแพทย์ด้วยกันฟังว่าจากที่อาจารย์ตรวจจีนอย่างละเอียดแล้วอาจารย์มั่นใจว่าจีนป่วยด้วยโรค Kleine-Levin Syndrome หรือโรคเจ้าหญิงนิทรา ตอนนี้ก็ได้แต่ให้การรักษาแบบประคับประคองรอจนกว่าผู้ป่วยจะตื่นขึ้นเอง อาจารย์ยังอธิบายต่อว่าหากผู้ป่วยตื่นอาจจะมีความผิดปกติทางอารมณ์ อาจจะมีความต้องการกินอาหารมากกว่าปกติ หรืออาจจะมีความต้องการทางเพศสูง และอาจารย์จะขอเป็นเจ้าของไข้ดูแลจีนด้วยตนเอง

....................................................


จีนนอนครุ่นคิดถึงเหตุการณ์ทั้งหมดนี่หมายความว่าตัวเขาย้อนเวลาไปอดีตกลายเป็นตันจูฮวดเหมือนกับนิยายดังในยุคของปู่เรื่องทวิภพ หรือบุพเพสันนิวาสที่เขาเคยอ่านในวัยเด็กหรือนี่ มันเป็นเรื่องจริงหรือว่าเขาฝันไปกันแน่ จีนเรียกไอ้หลงเข้ามาซักถามได้ความว่านี่เป็นปีศักราช ๑๒๔๓ ซึ่งเท่ากับ พ.ศ.๒๔๒๔ จีนประมวลข้อมูลในสมองกับปีศักราช แสดงว่าไอ้หลงต้องเป็นทาสในบ้านเพราะกว่าที่ล้นเกล้าฯรัชกาลที่ ๕ จะทรงออกพระราชบัญญัติเลิกทาส ร.ศ.๑๒๔ นั่นคือปี พ.ศ.๒๔๔๘ จีนถามถึงหลวงจีนคณานุรักษ์ไอ้หลงมีสีหน้างุนงงกับชื่อนี้จีนเลยนึกได้ว่าในเมื่อปีนี้คือ พ.ศ.๒๔๒๔ ท่านยังเป็นจีนตันจูล้ายท่านได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์จากล้นเกล้าฯรัชกาลที่ ๕ เมื่อครั้งที่เสด็จประพาสเมืองปัตตานีครั้งแรก ปี พ.ศ.๒๔๓๑ หลังจากนี้อีก ๗ ปี จีนยังคงซักถามไอ้หลงอีกหลายเรื่องราวสร้างความงุนงงให้ไอ้หลงเป็นยิ่งนักว่าเหตุใดเถ้าแก่ของมันจึงจำอะไรไม่ได้และถามอะไรแปลก ๆ กับมันมิหนำซ้ำยังพูดกับมันด้วยสำเนียงที่เปลี่ยนไป เป็นสำเนียงเหมือนพวกข้าราชการจากบางกอกที่มันเคยได้ยิน


เย็นวันนั้นจีนได้เจอกับคนอีกผู้หนึ่งที่เขารู้สึกเกรงขามในบารมีนั่นคือ หลวงสุนทรสิทธิโลหะ (ตันจูเบ้ง) ผู้ที่เคยทำหน้าที่กัปตันจีนดูแลชาวจีนในเมืองปัตตานี หลวงสุนทรฯเป็นชายวัยกลางคนร่างสูงใหญ่เช่นเดียวกับตันจูล้ายผู้เป็นน้องชาย แต่ใบหน้าของท่านออกแนวดุ ตากลมโตจ้องมองผู้ใดไม่มีใครกล้าสู้สายตา ท่านเพิ่งกลับจากเจรจาความเมืองกับเจ้าเมืองหนองจิกเมื่อทราบข่าวว่าตันจูฮวดฟื้นแล้วจึงรีบรุดมาเยี่ยมน้องชายที่ท่านรักมาก จูฮวดเจ้าเป็นเยี่ยงไรบ้างท่านเอ่ยถามด้วยเสียงที่เปี่ยมด้วยความเมตตาแต่ยังแฝงไว้ด้วยอำนาจ เฮียเป็นห่วงเจ้ามากขอให้เจ้าพักผ่อนให้เต็มที่จนหายดีก่อนจึงค่อยไปช่วยงานเฮียทั้งสอง ก่อนหลวงสุนทรฯจะกลับเรือนจีนเห็นไอ้หลงแอบกระซิบกระซาบอะไรกับท่านแล้วมองมาทางจีน จีนเห็นหลวงสุนทรฯ พยักหน้าทำนองรับทราบแล้วมีสีหน้าเคร่งเครียด

....................................................

โพสต์ล่าสุด

ดูทั้งหมด
ล่ามข้ามภพ ตอนที่ ๑๖

ตอนที่ ๑๖ วันนี้เป็นวันที่มีพิธีสมโภชพระหมอจ๊อซูก๋อง มีเสียงกลองเสียงระฆังดังทั่วตลาดจีนตั้งแต่ ๒ ยามจนถึงย่ำรุ่ง...

 
 
 
ล่ามข้ามภพ ตอนที่ ๑๕

ตอนที่ ๑๕ วันนี้เป็นวันชิวอิด หรือวันที่ ๑ เดือน ๑ ตามปีปฏิทินจีนคือวันตรุษจีน ที่ตลาดจีนคึกคักมาก หน้าบ้านทุกหลังมีโคมเต็งลั้งแขวนอย่างเ...

 
 
 

ความคิดเห็น


เว็บไซต์นี้จัดทำเพื่อรวบรวมรายชื่อทายาทหลวงสำเร็จกิจกรจางวาง(ตันเตียงสิ่น)ทุกสายสกุล และมีเรื่องราวต่าง ๆ ของตระกูลและท้องถิ่น รวมถึงนานาสรรพสาระต่าง ๆ

bottom of page