ล่ามข้ามภพ ตอนที่ ๕

ตอนที่ ๕

อาจารย์สมพลมาตรวจอาการของจีนแล้วแจ้งว่ายังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง อาจารย์คิดว่าคงอีกนานกว่าที่จีนจะตื่น การให้สารน้ำทางเส้นเลือดคงไม่เพียงพอและอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนจากการติดเชื้อได้ อยากจะขออนุญาตทำหัตถการที่เรียกว่า Percutaneous Endoscopic Gastrostomy หรือ PEG คือการส่องกล้องเข้าทางปากแล้วส่องไล่ทางเดินอาหารจนถึงกระเพาะอาหารแล้วเจาะผนังหน้าท้องใส่สายยางซิลิโคนเพื่อให้อาหารเหลวเข้าในกระเพาะอาหารโดยตรง พ่อเป็นผู้ลงชื่ออนุญาตให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบทางเดินอาหารทำหัตถการดังกล่าว เจ้าหน้าที่มานำจีนไปยังห้องทำหัตถการใช้เวลาประมาณ ๓๐ นาทีก็เสร็จเรียบร้อย

....................................................

เช้านี้จีนในร่างของตันจูฮวดตกใจตื่นเมื่อได้ยินเสียงตีม้าล่อดังแผ่ง ๆ มาแต่ไกล ไอ้หลงเอาอ่างใส่น้ำมาให้ล้างหน้าล้างตา ลุกออกไปเห็นคนกำลังหามเกี้ยวพระหมอหรือจ๊อซูก๋องมาที่บ้านกงสี ได้ความว่าเมื่อวานไอ้หลงกระซิบบอกหลวงสุนทรฯว่าเถ้าแก่จูฮวดนายของมันฟื้นจากการสลบไสลไป ๑ วัน ๑ คืนแล้วมีพฤติกรรมประหลาดเหมือนคนความจำเสื่อมจำอะไรไม่ได้ชอบถามมันด้วยคำถามแปลก ๆ ที่มันเองก็ไม่เข้าใจ ตัวหลวงสุนทรฯ คิดว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับน้องชายของตนน่าจะเกี่ยวข้องกับพิธีสมโภชสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของศาลเจ้าจ๊อซูก๋องเพราะตันจูฮวดเป็นลมหมดสติไปในช่วงที่กำลังมีพิธีกรรม สิ่งชั่วร้ายที่พยายามเข้าแทรกแซงพิธีกรรมคงจะเข้าร่างของน้องชายจนน้องชายตนป่วยแล้วมีอาการความจำเสื่อม จึงให้อัญเชิญจ๊อซูก๋องออกจากศาลเจ้ามายังบ้านกงสีเพื่อให้ซินแสได้ทำพิธีปัดรังควานให้ตันจูฮวด ครั้งนี้นับว่าเป็นครั้งแรกตั้งแต่ตันจูล้ายได้อัญเชิญจ๊อซูก๋อง จากปากคลองอาเนาะซูงามาประดิษฐานเป็นพระประธานของศาลเจ้าจ๊อซูก๋องที่ได้อัญเชิญออกจากศาลเจ้า

พิธีกรรมเริ่มด้วยจีนในร่างของตันจูฮวดต้องอาบน้ำชำระร่างกายให้สะอาดแล้วสวมเสื้อขาวกางเกงขาวนั่งเก้าอี้หน้าแท่นบูชาที่ประดิษฐานพระหมอจ๊อซูก๋อง มีหลวงสุนทรสิทธิโลหะ(ตันจูเบ้ง) พี่ชายคนโต ตันจูล้ายพี่ชายคนรอง ตันจูเซียนพี่ชายคนที่ ๓ และบรรดาญาติพี่น้องที่เป็นผู้ชายนั่งรายล้อมอยู่ด้านข้าง ซินแสตันเสี้ยนซึ่งเป็นผู้ดูแลศาลเจ้าจ๊อซูก๋องเป็นเจ้าพิธีให้ตันจูฮวดทำการจุดธูปเทียนบูชาพระและป้ายบูชาหลวงสำเร็จกิจกรจางวาง(ตันเตียงซิ่น) บิดาผู้ล่วงลับไปแล้ว จากนั้นม้าทรงก็ทำการอัญเชิญจ๊อซูก๋องเข้าประทับทรง ร่างทรงพูดจาเป็นภาษาจีนที่จีนฟังไม่เข้าใจ ร่างทรงเขียนยันตร์หรือฮู้ลงบนกระดาษแล้วจุดไฟเผาวางลงในขันน้ำมนตร์ขนาดใหญ่แล้วก็พูดจาอะไรพึมพำไปสักพัก จากนั้นหยิบจอกเล็ก ๆ ตักน้ำมนตร์ในขันส่งให้ชายหนุ่มดื่มแล้วให้ชายหนุ่มออกไปนั่งคุกเข่าบนถนนหน้าบ้านแล้วเทน้ำมนตร์รดร่างของตันจูฮวดจนหมดขันเป็นเสร็จพิธีการ ซินแสตันเสี้ยนบอกว่าจะให้พระหมอจ๊อซูก๋องอยู่ที่บ้านกงสี ๓ วันจึงจะอัญเชิญกลับศาลเจ้า ช่วงนี้ห้ามตันจูฮวดออกนอกบ้านเด็ดขาด ๓ วัน แล้วสั่งให้บ่าวช่วยกันหาไม้กระดานมาปูที่พื้นหน้าบ้านกงสีเพื่อให้โนราเล่นถวายพระและเป็นการเรียกขวัญให้ตันจูฮวดในยามค่ำทั้ง ๓ คืน

ช่วงนี้จีนเริ่มสำรวจภายในบ้านกงสี ตัวบ้านมีห้องโถงตรงกลางที่วางแท่นบูชาพระและบูชาป้ายบรรพบุรุษ ด้านซ้ายขวาของห้องโถงเป็นห้องพัก ห้องด้านขวาคือห้องที่ตันจูฮวดพักส่วนอีกห้องเป็นห้องว่าง ด้านหลังเป็นสวนมีเรือนไม้หลังเล็ก ๆ เป็นโรงครัวและที่พักของพวกบ่าว มีบ่าวชายหญิงอยู่ ๔-๕ คนล้วนแล้วแต่เป็นพี่น้องของไอ้หลง สวนมีกำแพงอิฐสูงประมาณ ๑ วา ๒ ศอก ด้านซ้ายเป็นสวนของหลวงสุนทรสิทธิโลหะ ด้านขวาเป็นสวนของตันจูล้าย ภายในห้องนอนตันจูฮวดมีโต๊ะตัวใหญ่ ๑ ตัว เต็มไปด้วยเอกสารต่าง ๆ รวมถึงตำรับตำรามากมายล้วนแล้วแต่เขียนด้วยอักษรแบบโบราณที่จีนเคยเรียนมาจึงอ่านออก แต่มีบางเล่มเป็นภาษาจีนก็จนปัญญาที่จะรู้ว่าเป็นหนังสืออะไรเพราะถึงแม้จะชื่อจีนแต่ชายหนุ่มไม่เคยเรียนภาษาจีนเลย นอกจากนี้จีนยังพบเอกสารเป็นภาษาอังกฤษอีกหลายฉบับซึ่งตั้งใจไว้ว่าวันหลังจะหยิบมาอ่านดูว่าเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับอะไรบ้าง

หลังจากครบ ๓ วัน เช้าวันที่ ๔ ซินแสตันเสี้ยนก็มาทำพิธีอัญเชิญจ๊อซูก๋องลงประทับเกี้ยวแล้วหาม กลับไปประดิษฐานที่ศาลเจ้า จีนในร่างของตันจูฮวดเลยถือฤกษ์เอาชัยที่จะได้ออกจากบ้านด้วยการเดินตีม้าล่อแผ่งแผ่งนำเกี้ยวพระไปจนถึงศาลเจ้า

....................................................