top of page

ล่ามข้ามภพ ตอนที่ ๙

  • รูปภาพนักเขียน: drpanthep
    drpanthep
  • 30 ม.ค. 2566
  • ยาว 1 นาที

ตอนที่ ๙


เช้านี้หลังจากกินอาหารเช้าเก็บข้าวของดับฟืนไฟแล้วคณะของเราก็ลงเรือ ถ่อทวนน้ำขึ้นไปเรื่อย ๆ จุดหมายคือบิเซระหรือท่าสาป ท่าสาปอยู่ฝั่งซ้ายของแม่น้ำปัตตานี แม่น้ำปัตตานีช่วงจากหนองจิกไปท่าสาปค่อนข้างคดเคี้ยวกระแสน้ำแรง คนค้ำถ่อต้องออกแรงมากการเดินทางจึงค่อนข้างล่าช้า เราหาชายหาดที่สงบจอดเรือเพื่อเป็นที่พักแรมของพวกเรา มิสเตอร์คาเมรอน มิสเตอร์โคลท์ จีน ไอ้หลงและลูกหาบอีก ๒ คนเดินไปทางตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ ๒ ไมล์ ก็เห็นภูเขาลูกหนึ่งที่เรียกเป็นภาษามลายูว่าบูกิตบือซา หมายถึงเขาใหญ่ ในเทือกเขานี้มีถ้ำแห่งหนึ่งปากถ้ำอยู่สูงจากพื้นดินเมื่อเดินขึ้นไปถึงปากถ้ำมองเข้าไปเห็นแสงเนื่องจากถ้ำมีช่องทางทะลุออกไปที่หน้าผา ถ้ำมีความลึกประมาณ ๓๐๐ ฟุต ภายในถ้ำมีรูปปั้นพระพุทธรูปเป็นพระนอนสร้างด้วยอิฐโบกปูนทับ จีนขนลุกซู่นี่เขามีโอกาสได้เห็นพระนอนวัดถ้ำคูหาภิมุขในสภาพดั้งเดิมหรือนี่ พระนอนที่เบื้องหน้าจีนตอนนี้ไม่เหมือนที่จีนเคยเห็น เบื้องหน้าเป็นพระนอนที่เก่ามากเป็นปูนที่รอยตะไคร่น้ำเกาะ บางตำแหน่งมีรอยปูนกะเทาะเห็นอิฐภายใน ที่เศียรพระเป็นนาคปรกแต่ศีรษะนาคตัวหนึ่งหักหล่นอยู่ด้านข้าง จีนจำได้ว่าเมื่อตอนเป็นเด็กปู่เคยพาเที่ยวที่วัดถ้ำ พามากราบพระนอนแล้วพาไปชี้ช่องที่ทะลุออกไปหน้าผา ปู่เล่าว่าตอนเด็ก ๆ คุณทวดพ่อของปู่กับน้องชายมาวิ่งเล่นที่นี่แล้วน้องชายคุณทวดพลาดหล่นออกไปทางช่องนี้ แต่เดชะบุญที่ไปติดค้างกิ่งไม้ไม่ร่วงหล่นถึงพื้นด้านล่าง ระหว่างที่มิสเตอร์คาเมรอนและมิสเตอร์โคลท์กำลังวัดและจดบันทึกระยะต่าง ๆ ของพระนอน จีนเดินเลี่ยงไปที่ผนังถ้ำฝั่งตรงข้ามพระนอน จีนจำได้ว่าตรงนั้นมีพระพุทธรูปองค์หนึ่งที่ฐานของพระเป็นที่บรรจุอัฐิของบรรพบุรุษของย่า แต่เมื่อเดินไปก็พบว่าตรงนั้นเป็นที่ว่างเปล่ายังไม่มีการสร้างพระพุทธรูปแต่อย่างใด เมื่อมองดูรอบ ๆ ผนังถ้ำก็พบว่าไม่มีอะไรเลย แสดงว่าพระพุทธรูปหรือรูปปั้นต่าง ๆ ที่จีนเคยเห็นล้วนแล้วแต่สร้างขึ้นในภายหลังทั้งสิ้น พวกเราอยู่ที่นี่จนบ่ายแก่ ๆ แล้วจึงเดินทางกลับเรือ ระหว่างทางก็แวะดูบ้านเรือนในละแวกนั้นไปเรื่อย ๆ บ้านเรือนส่วนใหญ่เป็นบ้านยกพื้นสูงมีเสาไม้ฝาบ้านเป็นไม้ไผ่ที่นำมาสานกันหลังคามุงจาก ชาวบ้านบอกว่าละแวกนี้เวลาน้ำหลากน้ำจากแม่น้ำปัตตานีจะท่วมจึงต้องสร้างบ้านสูงหนีน้ำ ส่วนใหญ่จะทำนาทำสวน ต่างจากชาวเมืองยะลาในฝั่งตรงข้ามแม่น้ำที่ฝีมือเชิงช่างเป็นช่างไม้ที่แกะสลักลายไม้ได้สวยงาม เมื่อเรากลับถึงจุดที่จอดเรือพ่อครัวได้ทำอาหารไว้รอแล้ว พวกเราลงไปแช่ตัวอาบน้ำในแม่น้ำปัตตานีที่ไหลเชี่ยวใสสะอาดทำให้รู้สึกผ่อนคลายจากความเหนื่อยล้าในวันนี้ เรา ๓ คนนอนบนเรือ ส่วนคนที่เหลือยังสมัครใจที่จะนอนรอบกองไฟบนชายหาด

...............................................................


คนเรือบอกว่าหลังจากนี้เราจะเจอกระแสน้ำที่เชี่ยวกรากมากขึ้น ก่อนออกเดินทางพวกเราจึงต้องจัดเก็บสัมภาระมามัดรวมกันไว้ เมื่อออกจากท่าสาปเราผ่านทิวทัศน์เป็นป่าเขาตลอด ๒ ข้างทาง แม่น้ำวกวนผ่านไปตามเทือกเขา คนถ่อเรือและคนถือท้ายเรือต้องใช้ความสามารถอย่างมากในการที่จะผ่านกระแสน้ำที่เชี่ยวกรากในแต่ละช่วง บางช่วงก็มีแก่งหินขวางทางหากไม่ระวังเรือไปกระแทกก็คงจะเกิดความเสียหายได้ เมื่อมองไปในแม่น้ำจะพบว่าน้ำใสสะอาดมากเห็นปลาน้อยใหญ่แหวกว่ายเต็มไปหมด คนถ่อเรือบอกว่าชาวบ้านแถบนี้สามารถลงไปจับปลาได้ด้วยมือเปล่า


สักพักเราก็พ้นจากแนวป่าถึงแนวเขากรงปินังซึ่งเป็นภูเขาหินแกรนิต หินควอทซ์และหินปูน แม่น้ำปัตตานีช่วงนี้ไม่มีหาด ทั้ง ๒ ข้างเป็นหน้าผาหินบางช่วงเห็นหินควอทซ์สะท้อนแสงวับ ๆ แวม ๆ แม่น้ำช่วงนี้มีแก่งหินเยอะมาก จนช่วงบ่ายเราเข้าเขตบันนังสตา บันนังสตาเป็นพื้นที่ราบเชิงเขาด้านหนึ่งเป็นแม่น้ำปัตตานี อีกด้านหนึ่งเป็นภูเขา ภูเขาเหล่านี้เต็มไปด้วยเหมืองตะกั่วและเหมืองดีบุก เราจอดพักเรือที่บันนังสตาแล้วขึ้นไปติดต่อว่าจ้างช้างสำหรับเดินเข้าไปยังเหมืองต่าง ๆ ที่นี่มีช้างเยอะมากเพราะเป็นพาหนะที่ใช้ในการขนสัมภาระต่าง ๆ เข้าไปตามเหมืองต่าง ๆ แล้วขนแร่จากเหมืองออกมาที่บันนังสตาเพื่อเตรียมขนลงเรือล่องไปขาย


หลังจากที่จัดหาช้างได้แล้ว พวกเราก็ออกเดินทางจากบันนังสตาไปยังถ้ำทะลุ พี่รองตันจูล้ายได้อนุญาตให้ตันจูฮวดนำชาวคณะทั้งหมดไปพักที่กงสีเหมืองถ้ำทะลุซึ่งอยู่ไม่ไกลจากปากทาง จะได้สะดวกในการเดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ ในละแวกนั้น จีนตื่นเต้นมากเพราะตั้งแต่เด็ก ๆ แล้วที่จีนได้อ่านบันทึกเรื่องราวของพระจีนคณานุรักษ์กับเหมืองถ้ำทะลุ

ในบั้นปลายของชีวิตพระจีนคณานุรักษ์ได้มานอนป่วยที่เหมืองถ้ำทะลุและถึงแก่กรรมที่นั่นเมื่อวันที่ ๙ มกราคม พ.ศ.๒๔๖๒ และมีการเก็บศพไว้ ๑๐๐ วันเพื่อพระราชทานเพลิงศพ ปู่เล่าว่าสมัยหนุ่ม ๆ คุณทวดคือพ่อของปู่ทำงานที่เหมืองบูหล่วนซึ่งอยู่ลึกเข้าไป คุณทวดยังทันเห็นกงสีหรือบ้านพักของพระจีนคณานุรักษ์ ใต้แคร่ที่ท่านนอนมีโพรงดินเป็นรูขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ ๘-๙ นิ้ว ว่ากันว่าเป็นปากทางเข้ารังงูจงอางที่เชื่อว่าเป็นงูเจ้าที่ เมื่อพระจีนคณานุรักษ์ถึงแก่กรรมงูจงอางนั้นก็หายไป แต่ก็ไม่มีใครกล้าไปยุ่งกับโพรงนั้น ต่อมามีการขายเหมืองถ้ำทะลุให้ผู้อื่นกงสีนั้นถูกรื้อไป ครั้งนี้จีนจะได้มาสัมผัสถ้ำทะลุจริง ๆ เสียที และเป็นการสัมผัสแบบย้อนยุค

โพสต์ล่าสุด

ดูทั้งหมด
ล่ามข้ามภพ ตอนที่ ๑๖

ตอนที่ ๑๖ วันนี้เป็นวันที่มีพิธีสมโภชพระหมอจ๊อซูก๋อง มีเสียงกลองเสียงระฆังดังทั่วตลาดจีนตั้งแต่ ๒ ยามจนถึงย่ำรุ่ง...

 
 
 
ล่ามข้ามภพ ตอนที่ ๑๕

ตอนที่ ๑๕ วันนี้เป็นวันชิวอิด หรือวันที่ ๑ เดือน ๑ ตามปีปฏิทินจีนคือวันตรุษจีน ที่ตลาดจีนคึกคักมาก หน้าบ้านทุกหลังมีโคมเต็งลั้งแขวนอย่างเ...

 
 
 

ความคิดเห็น


เว็บไซต์นี้จัดทำเพื่อรวบรวมรายชื่อทายาทหลวงสำเร็จกิจกรจางวาง(ตันเตียงสิ่น)ทุกสายสกุล และมีเรื่องราวต่าง ๆ ของตระกูลและท้องถิ่น รวมถึงนานาสรรพสาระต่าง ๆ

bottom of page