top of page

คำให้การเด็กหัวตลาด ตอนที่ ๑๐๕ เหมืองลาบู

  • รูปภาพนักเขียน: drpanthep
    drpanthep
  • 14 เม.ย.
  • ยาว 1 นาที

ได้อ่านเรื่องราวของเหมืองลาบูจากเพจหนึ่ง บทความนั้นยังตกเรื่องราวทางประวัติศาสตร์บางช่วงบางตอนของเหมืองลาบู เด็กหัวตลาดจึงต้องนั่งรื้อเอกสารมาบันทึกกันลืม


ประชุมพงศาวดารภาค ๓ พงศาวดารเมืองปัตตานีมีการกล่าวถึงเหมืองลาบูไว้ว่าในสมัยที่หลวงสวัสดิภักดี(ยิ้มซ้าย) มาดำรงตำแหน่งเจ้าเมืองยะลาได้มีการสร้างเหมืองดีบุกไว้ ๖ เหมืองได้แก่เหมืองดีดะ เหมืองล่าบู เหมืองหม่าเระ เหมืองบายอ เหมืองใหม่ และเหมืองแหมะบุหลัน ซึ่งดูตามประวัติศาสตร์หลวงสวัสดิภักดี(ยิ้มซ้าย) เป็นเจ้าเมืองยะลาหลังจากที่มีการยกทัพมาปราบการก่อความวุ่นวายของเจ้าเมืองปัตตานี ยะลา ไทรบุรี ในสมัยรัชกาลที่ ๓ มีการจัดระเบียบหัวเมืองแถบนั้นก็อยู่ในช่วง พ.ศ.๒๓๘๒

พอถึง พ.ศ.๒๓๙๐ หลวงสวัสดิภักดี(ยิ้มซ้าย)กลับไปเป็นเจ้าเมืองยะหริ่ง แสดงว่าท่านสร้างเหมือง ๖ แห่งในช่วง พ.ศ.๒๓๘๒-๒๓๙๐ หลังจากนั้นเหมืองทั้ง ๖ แห่งตกเป็นสมบัติของเจ้าเมืองสงขลา จนกระทั่งสมัยรัชกาลที่ ๕ เมืองสงขลาเริ่มหมดอำนาจในการปกครองเมืองยะลา เมืองปัตตานี จึงมีการขออนุญาตทำเหมืองเรียกว่าขอประทานบัตร



ประชุมพงศาวดาร ภาคที่ ๓ พงศาวดารเมืองปัตตานี
ประชุมพงศาวดาร ภาคที่ ๓ พงศาวดารเมืองปัตตานี

ผู้ที่ได้ประทานบัตรเหมืองลาบูเป็นคนแซ่เหง่า แซ่เดียวกับเจ้าเมืองสงขลาและหลวงสวัสดิภักดี(ยิ่มซ้าย) เด็กหัวตลาดเพิ่งจะไปอ่านเจอชื่อของท่านในบันทึกคำอุทิศส่วนกุศลของปู่ขุนธำรงพันธุ์ภักดี(ซิมซุ่นจ่าย วัฒนายากร) ว่าท่านผู้นี้ชื่อเหง่ายี่เม่ง ภรรยาของท่านชื่อกิ้มกิ้น เรียกกันว่าโป่ลาบู

เหมืองลาบูจึงเปลี่ยนจากเป็นของเจ้าเมืองสงขลามาเป็นของเถ้าแก่เหง่ายี่เม่งและโป่ลาบู แล้วตกทอดมาถึงรุ่นลูกคือนายเหง่าไล้บู๊ หรือที่เรียกกันว่าหลงจู๊เหลี่ยง เถ้าแก่เหง่าไล้บู๊มีภรรยาชื่อเลี่ยนห้อง บ้านของท่านคือบ้านตึกจีนโบราณหัวมุมถนนอาเนาะรู ตรงข้ามบ้านรังนก กือดาจีนอ


นางกิ้มกิ้น หรือโป่ลาบู
นางกิ้มกิ้น หรือโป่ลาบู

เถ้าแก่เหง่าไล้บู๊และยายเลี่ยนห้องไม่มีลูกชาย ต่อมาจึงขายเหมืองลาบูให้กับฝรั่งก่อนเกิดสงครามโลกครั้งที่ ๒ ซึ่งขอประทานบัตรในนามของบริษัทสเตรตสคอนโซลิเดเต็ดทินไมนส์จำกัด

เมื่อบริษัทฝรั่งเข้ามาก็เปลี่ยนรูปแบบการทำเหมืองแบบเดิมไปเป็นแบบอุโมงค์ โดยระเบิดภูเขาให้เป็นอุโมงค์ไปตามสายแร่ดีบุก

จนเมื่อเกิดสงครามโลกครั้งที่ ๒ เหมืองลาบูจึงหยุดกิจการไประยะหนึ่ง แล้วกลับมาดำเนินการแต่ไม่ประสบความสำเร็จเพราะหลังสงครามขาดแคลนอุปกรณ์เครื่องจักร

จนกระทั่ง พ.ศ.๒๕๐๐ บริษัทธำรงวัฒนาจำกัดของปู่ขุนธำรงพันธุ์ภักดี(ซิมซุ่นจ่าย วัฒนายากร) จึงได้ซื้อกิจการเหมืองลาบูมาจากบริษัทสเตรตคอนโซลิเดเต็ดทินไมนส์จำกัด เป็นเหมืองที่มีอาญาจักรใหญ่มาก เป็นเมืองหนึ่งในป่าเลย

มีการบำรุงรักษาบังกะโลที่เป็นที่พักของฝรั่งให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์เป็นที่พักของลูกหลานที่คุมเหมืองลาบู และลูกหลานที่ขึ้นไปเที่ยวตลอดมา

จนกระทั่งหมดอายุประทานบัตร เหมืองลาบูหยุดกิจการ แต่อาณาบริเวณเหมืองกลายเป็นชุมชนใหญ่


รายชื่อเจ้าของประทานบัตรเหมือง จากหนังสือดีบุก กรมโลหกิจ พ.ศ.๒๕๐๖
รายชื่อเจ้าของประทานบัตรเหมือง จากหนังสือดีบุก กรมโลหกิจ พ.ศ.๒๕๐๖

พ.ศ.๒๕๐๙ มีการประกาศให้พื้นที่ป่าลาบูและป่าถ้ำทะลุเป็นเขตป่าสงวนแห่งชาติ เหมืองลาบูจึงอยู่ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติไปด้วย



บ้านพักที่ฝรั่งสร้างไว้สมัยที่มาทำเหมืองลาบู
บ้านพักที่ฝรั่งสร้างไว้สมัยที่มาทำเหมืองลาบู

ปรับปรุงแก้ไข วันที่ ๑๔ เมษายน พ.ศ.๒๕๖๘


โพสต์ล่าสุด

ดูทั้งหมด

Comments


เว็บไซต์นี้จัดทำเพื่อรวบรวมรายชื่อทายาทหลวงสำเร็จกิจกรจางวาง(ตันเตียงสิ่น)ทุกสายสกุล และมีเรื่องราวต่าง ๆ ของตระกูลและท้องถิ่น รวมถึงนานาสรรพสาระต่าง ๆ

bottom of page