คำให้การเด็กหัวตลาด ตอนที่ ๗๕ โรงเรียนเก่าของพ่อที่นครศรีธรรมราช
- drpanthep
- 28 ม.ค. 2566
- ยาว 1 นาที
ผมฟังพ่อเล่าเรื่องของพ่อมาตั้งแต่เด็ก ๆ พ่อเป็นคนที่มีความคิดว่าการที่ซื้อโทรทัศน์ไว้ในบ้านจะเป็นเหตุให้ลูกเสียการเรียน ดังนั้นที่บ้านเราพอกินอาหารเย็นเสร็จ ก็จะฟังละครวิทยุชุดพงศาวดารจีนซิยิ่นกุ้ย บูเช็คเทียน หรือนิยายจีนแป๊ะโฮ้วแป๊ะไซที่ผลิตภัณฑ์ไวท์ไลอ้อนเป็นผู้สนับสนุนรายการ หรือขำขันของเกษม ฉายพันธุ์ บางคืนจะขนหัวลุกด้วยเรื่องจริงหรืออิงนิยาย จบข่าว ๒ ทุ่มจะเป็นเพลงไทยเดิมประเภทต่าง ๆ ทั้งปี่พาทย์ มโหรี เครื่องสายผสมออร์แกน ช่วงเพลงไทยเดิม จะเป้นช่วงที่พ่อนอนให้ลูก ๆ บีบนวดบ้าง เกาหลังบ้าง แล้วพ่อก็จะเล่าความหลังของพ่อให้ฟัง เรื่องที่ฟังหลายรอบจนโต จนจำขึ้นใจคือการที่ถูกส่งไปเรียนที่นครศรีธรรมราช เป็นนักเรียนประจำที่โรงเรียนอเมริกันสกูลฟอร์บอย หรือเรียกสั้น ๆ ว่าโรงเรียนอเมริกันฯ
พ่อถูกส่งไปอยู่ประจำที่นครฯตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๔๘๑ ญาติพี่น้องที่ไปเรียนพร้อม ๆ กันมีลุงรูญ จำรูญ คณานุรักษ์ ลุงบูรญ์ สมบูรณ์ คณานุรักษ์ พ่อ อาเติม เติมศักดิ์ คณานุรักษ์ อาศล กุศล คณานุรักษ์ น้าเอ้ง ปรีชา คณานุรักษ์ อาซุ่น นพ.บุญสิทธิ์ เลขะกุล ช่วงที่เรียนอยู่ในความดูแลของครูใหญ่ชื่อครูบุญพา รัตนสุวรรณ ซึ่งชอบเลี้ยงไก่ ทำให้พ่อหายเหงาด้วยการไปเล่นกับไก่ครูบุญพา จะมีญาติ ๆ ผู้หญิงถูกส่งไปอยู่ที่โรงเรียนศึกษากุมารี ซึ่งเป็นโรงเรียนของมิชชันนารีเช่นกันแต่มีแต่นักเรียนหญิง ญาติผู้หญิงมีป้าภา ประภาพรรณ(คณานุรักษ์) เง่าธรรมสาร อาไพ ประไพพรรณ(คณานุรักษ์) กิจถาวร อาพรรณ อาภาพรรณ(คณานุรักษ์) วัฒนายากร อาจวบ พญ.นวรัตน์(วัฒนานิกร) เสรีกุล จี๊ขิ่ม ดรุณี วัฒนานิกร

พ่อตอนเรียนชั้น ป.๔ ที่โรงเรียนอเมริกันฯ

นักเรียนโรงเรียนศึกษากุมารี แถวหลังด้านซ้ายของภาพ ป้าภา ประภาพรรณ(คณานุรักษ์) เง่าธรรมสาร
แถวหน้าจากด้านซ้ายของภาพ
คนซ้ายสุด อาไพ ประไพพรรณ(คณานุรักษ์) กิจถาวร, อาพรรณ อาภาพรรณ(คณานุรักษ์) วัฒนายากร
คนที่เหลือไม่ทราบชื่อ
ผมไปเที่ยวนครศรีธรรมราชครั้งนี้ได้เห็นอะไรหลายอย่างโดยไม่ตั้งใจ บางอย่างที่อยากเห็นกลับไม่ได้เห็น ตอนที่ไปวัดประดู่ เพื่อชมเก๋งจีนพระเจ้าตากสิน ท็อป พนา อดิเทพวรพันธ์ พาผมเดินข้ามถนนไปดูอาคารเก่าหลังหนึ่งในโรงเรียนศรีธรรมราชศึกษา แผนกอนุบาล ผมขนลุกเลยเพราะที่นี่คือโรงเรียนศึกษากุมารีที่บรรดาป้า ๆ น้า ๆ อา ๆ ผมมาเรียนในสมัยสงครามโลกครั้งที่ ๒ นั่นเอง แต่ผมมัวแต่ใช้เวลาไปกับหลายแห่ง ผมเลยไม่ได้ไปเก็บภาพคริสตจักรเบธเลเฮม ซึ่งคือสถานที่เดิมของโรงเรียนอเมริกันฯ ผมจึงขอให้พี่อ๋อย องค์อร พรหมสุภา ช่วยไปถ่ายรูปมาให้ผม

สถานที่ตั้งของโรงเรียนอเมริกันสกูลฟอร์บอยในอดีต

ปัจจุบันเป็นอาคารของคริสตจักร
เมื่อวานเอารูปอาคารเก่าศึกษากุมารีให้พ่อดู พ่อยิ้มแล้วบอกว่าวันคริสต์มาสนักเรียนชายจากโรงเรียนอเมริกันฯจะเดินร้องเพลงคริสต์มาสอวยพร แล้วมายืนร้องหน้าตึกนี้ มีนักเรียนหญิงแอบมองมาจากบนอาคารเต็มไปหมด แต่ไม่ได้รับอนุญาตให้ลงมา ว่าแล้วพ่อก็ร้อง Silent night ทำให้ผมนึกได้ว่าผมฟังพ่อร้องเพลงคริสต์มาสให้ฟังตั้งแต่เด็กนี่เองทำให้ผมชอบฟังเพลงพวกนั้นทั้ง ๆ ที่ผมไม่เคยเรียนโรงเรียนฝรั่ง มันจำฝังใจมาโดยไม่รู้ตัว
พ่อบอกว่าสมัยนั้นโรงเรียนศึกษากุมารีไม่มีโบสถ์ วันอาทิตย์เด็กประจำจะถูกพาไปเข้าโบสถ์ที่โรงเรียนอเมริกันฯ ทำให้บรรดาพี่ ๆ น้อง ๆ จากปัตตานีทั้งชายหญิงได้เจอกัน


อาคารเก่าโรงเรียนศึกษากุมารียังคงอยู่
บันทึกวันที่ ๑๑ เมษายน พ.ศ.๒๕๖๔



ความคิดเห็น