top of page

คำให้การเด็กหัวตลาด ตอนที่ ๘๙ เมื่อผมสอบตกเพราะเล่นเทนนิส

  • รูปภาพนักเขียน: drpanthep
    drpanthep
  • 29 ม.ค. 2566
  • ยาว 1 นาที

วันก่อนไปนั่งกินอาหารกับลูกและหลาน เจ้าหลานชายซึ่งเรียนชั้นมัธยมปลายเล่าเรื่องอาจารย์ชอบ bully เด็ก ทำนองว่ามีความสามารถแค่นี้ก็ไปเรียนอย่างอื่นเถอะ ก็เลยเล่าความหลังให้ฟังว่าสมัยก่อนผมเองก็โดนอาจารย์ที่ปรึกษาพูดจาแบบที่เด็กสมัยนี้เรียกว่า bully แต่ผมไม่รู้สึกอะไร


ก็ต้องเท้าความก่อนว่าตอนที่ผมสอบเข้าคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ได้เมื่อปี พ.ศ.๒๕๒๑ (หลายคนยังไม่เกิด ฮิ ๆๆ) พี่พงศ์ ธีรพงศ์ คณานุรักษ์ ลูกชายลุงมานพถามผมว่าอยากได้อะไรเป็นรางวัล คำตอบคือผมอยากได้ไม้เทนนิสไว้หัดเล่นสักอัน พี่พงศ์เลยหยิบ Wilson T2000 รุ่นเดียวกับที่จิมโบ้ จิมมี่ คอร์นเนอร์ใช้ให้ผมเอาไปหัดเล่น พอมหาวิทยาลัยเปิดเทอมผมไปอยู่หอพัก ผมก็ไปบ้าหัดเล่นเทนนิส ความบ้าของผมถึงขั้นเข้าหอสมุดคุณหญิงหลง อรรถกระวีสุนทร ยืมตำราเทนนิสของ Stan Smith, Arthur Ash ไปนั่งอ่านแล้วไปหัดเอง จำท่าทางไปน็อคบอร์ดตั้งแต่เช้ามืดที่ยังไม่มีใครมาเล่น จนเล่นเป็นสามารถน็อคกับเพื่อนได้ เล่นเกมส์ได้ หนังสือหนังหาไม่ไปเรียนมันเลย เพราะตื่นมาเล่นเทนนิสตั้งแต่เช้าพอบ่าย ๆ มันง่วงก็แอบกลับไปนอนที่หอพัก เย็นตื่นมาก็ไปเล่นเทนนิส เรียกว่าเทนนิสมันเข้าในกระแสเลือด จนได้เล่นทีมคณะแพทย์ ทีมมหาวิทยาลัย ตระเวณแข่งไปทั่วจนสอบตก ช่วงอยู่ปี ๒ ต้องพักการเรียนไป ๑ เทอม เพื่อตั้งหลักกันใหม่ ผมสอบเอนทรานซ์ใหม่ติดคณะบัญชี จุฬาฯ แต่ด้วยคำพูดไม่กี่ประโยคของพ่อ คือถ้าจะไปเรียนบัญชี กลับไปเรียนหมอให้รีไทร์ก่อน ทำให้ผมตัดสินใจกลับไปสู้ต่อ


ยังพอจะมีรูปตอนเล่นเทนนิสหลงเหลืออยู่บ้าง


สมัยนั้นทีมเทนนิส ม.อ.หาดใหญ่ กวาดแชมป์ของสโมสรเทนนิสหาดใหญ่ตลอด

จนเป็นที่เขม่นของเจ้าภาพ


ช่วงที่อยู่ชั้นปรีคลินิคเรียนพวกกายวิภาคศาสตร์ สรีรวิทยา จุลชีววิทยา พื้นฐานทางการแพทย์ต่าง ๆ ผมก็ยังคงเล่นเทนนิส แต่เล่นน้อยลง เพราะเพื่อนที่เล่นด้วยที่เรียนคณะอื่นมันจบกันหมดแล้ว เพื่อนที่เรียนหมอมันก็อยู่ชั้นคลินิคไม่มีเวลามาเล่น ผมเลยขาดคนเล่นด้วยที่รู้ใจกัน เพราะก่อนนั้นพวกเราเล่นด้วยกัน กินด้วยกันทุกวันจนเป็นกิจวัตรประจำวัน จนกระทั่งผมขึ้นชั้นคลินิคผมก็เลยเลิกเล่นเทนนิสไปเลย


แต่ด้วยความที่ผมตกซ้ำชั้นไปเรียนกับรุ่นน้อง ๒ รุ่น พื้นฐานที่ผ่านมาก็ห่วยเพราะไม่ตั้งใจเรียน ผ่านมาแบบคาบเส้นตลอด อยู่ชั้นคลินิคนี่มันโหดสุด ๆ ตามคนอื่นไม่ทันเลย จนชักจะท้อ อาจารย์ พญ.อัจนา วิมุกตะลพ อาจารย์ที่ปรึกษาผมซึ่งเป็นอายุรแพทย์ด้านระบบทางเดินหายใจ เจอหน้าผมทีไรก็จะพูดซ้ำ ๆ ว่า พี่ปาน ถ้าไม่ไหวก็เลิกเรียนเถอะ ไปหาอย่างอื่นเรียน ไปทำงานด้วยวุฒิวิทยาศาสตร์บัณฑิต (วิทยาศาสตร์การแพทย์) ที่ได้ตุนไว้ ๑ ใบแล้วดีกว่า ผมก็ดันฮึดเรียนจนจบ

จบแล้วทำงานเป็นแพทย์ใช้ทุนภาควิชาศัลยศาสตร์ รอเวลาไปเรียนต่ออยู่สายอาจารย์ประเสริฐ วศินานุกร รับปรึกษาผู้ป่วยด้านศัลยกรรมทรวงอกและหลอดเลือดทั่วภาคใต้ อาจารย์อัจนาจะปรึกษาผู้ป่วยก้อนในปอด หนองในโพรงเยื่อหุ้มปอดบ่อยมาก เวลาไปดูผู้ป่วยก็จะโดนแซวว่า พี่ไม่นึกเลยว่าจะมีวันที่พี่ต้องปรึกษาพี่ปานเอาผู้ป่วยพี่ไปผ่าตัด ฮิ ๆๆ


ช่วงอยู่ชั้นคลินิคเลิกเล่น แต่ก็ยังอดไม่ได้ที่จะไปนั่งดูคนอื่นเล่น


ที่ตลกคือหลังจากผมหยุดเล่นเทนนิสตอนเรียนชั้นคลินิค กลับมาเป็นอาจารย์ผมก็ไม่ได้เล่น จนช่วงหนึ่งผมไปทำงานที่ รพ.บ้านโป่ง ราชบุรี มีคนชวนไปเล่น ผมก็ลองกลับไปเล่น ผมตีไม่ได้เลย ด้วยความใจร้อนขี้หงุดหงิดของผมลูกที่เคยตีได้ เคยเสิร์ฟได้ แต่กลับทำไม่ได้อารมณ์บ่จอย ผมเลยเลิกเล่นมันเด็ดขาด หันไปเล่นกอล์ฟแทน ตอนหัดกอล์ฟผมก็บ้าแบบเดียวกับตอนหัดเทนนิส ผมลงทุนเสียเงินเรียนกับโปร แล้วเข้าสนามไดรฟ์ทุกวัน ไปออกรอบทุกสัปดาห์เหยียบมาแล้วทุกสนามในพื้นที่ภาคกลางตอนล่าง แต่มาช่วงหลังก็ไม่ค่อยได้ไปเล่น ยิ่งมาทำงานที่นราธิวาส ๖ เดือนนี่ผมไม่ได้จับไม้กอล์ฟเลย ได้แต่วิ่งออกกำลัง



บันทึกเมื่อวันที่ ๑๘ เมษษยน พ.ศ.๒๕๖๕

โพสต์ล่าสุด

ดูทั้งหมด

Comments


เว็บไซต์นี้จัดทำเพื่อรวบรวมรายชื่อทายาทหลวงสำเร็จกิจกรจางวาง(ตันเตียงสิ่น)ทุกสายสกุล และมีเรื่องราวต่าง ๆ ของตระกูลและท้องถิ่น รวมถึงนานาสรรพสาระต่าง ๆ

bottom of page