top of page

๑๘.เฮียเบสท์

  • รูปภาพนักเขียน: drpanthep
    drpanthep
  • 20 เม.ย. 2565
  • ยาว 1 นาที

ปี พ.ศ.๒๕๑๖ ม.อ.เริ่มรับนักเรียนแพทย์รุ่น ๑ ตอนผมเข้าเรียนปี ๑ พ.ศ.๒๕๒๑ พี่รุ่น ๑ อยู่ปี ๖ ต้องไปปฏิบัติงานที่ รพ.หาดใหญ่ เพราะ รพ.สงขลานครินทร์ยังสร้างไม่เสร็จ พี่รุ่น ๑ กับรุ่นผมจึงไม่ค่อยจะรู้จักกันยกเว้นบางคนที่เป็นคนทำกิจกรรม ผมอยู่ปี ๒ พ.ศ.๒๕๒๒ พี่รุ่น ๑ จบไปเป็นหมออินเทิร์น บางคนก็เลือกอินเทิร์นที่ รพ.หาดใหญ่จึงยังเห็นหน้ากัน หลังอินเทิร์นเสร็จพี่รุ่น ๑ จำนวนหนึ่งรับทุน ม.อ.ไปเรียนต่อเฉพาะทางเพื่อกลับมาเป็นครูแพทย์ได้เลยโดยไม่ต้องทำงานใช้ทุนก่อน เฮียเบสท์เป็นหนึ่งในจำนวนนั้น


ปี ๒๕๒๖ เฮียเบสท์พร้อมกับเพื่อนร่วมรุ่นกลับมาเป็นครูแพทย์ เป็นครูแพทย์ชุดแรกที่เป็นหน่อเนื้อแพทย์ ม.อ. แต่นักเรียนแพทย์หลังจากรุ่น ๖ แทบจะไม่มีใครรู้ว่าเฮียเบสท์แกเป็นพี่รุ่น ๑ เพราะแกไม่เคยคุยกับใครเลยว่าแกจบหมอ ม.อ. เวลาแกเล่าเรื่องอะไรให้นักเรียนแพทย์ฟังแกมักจะอ้างเหตุการณ์ที่รามาธิบดีทุกครั้ง เพราะแกไปเรียนต่อเฉพาะทางที่รามาธิบดี จนคนส่วนใหญ่คิดว่าแกจบหมอจากรามาธิบดี


ปกติเฮียเบสท์แกเป็นคนไม่ยุ่งกับใคร ไม่ค่อยพูดจาเล่นหัว หรือคุยกับใคร เวลาคุยก็มีแต่เรื่องวิชาการเรื่องการแพทย์ เหมือนกับจะไม่รู้เรื่องนอกวงการแพทย์เลย แกมักจะบอกว่าไม่ว่าแกทำอะไรต้องทำให้ดีที่สุด ทุกอย่างต้องเป็นเดอะเบสท์ทั้งรักษาคนไข้ ทั้งผ่าตัด หรือแม้แต่ซื้อของใช้ของที่แกซื้อต้องเดอะเบสท์ เลยเป็นที่มาของสมญานาม......เฮียเบสท์


เราไม่ค่อยจะรู้เรื่องสมัยที่แกไปเรียนต่อเฉพาะทางที่รามาธิบดี เพราะในยุคนั้นมีแกคนเดียวที่ไปเรียนเป็นหมอผ่าตัดที่นั่น จนผมไปเป็นเอกซ์เทิร์นฝึกงานที่ รพ.สงขลา กลุ่มที่ไปฝึกงานครึ่งปีแรกส่งต่อมาว่าเวลาไปผ่านกองศัลย์ที่ รพ.สงขลา จะเจอหมอผ่าตัดที่ดุมาก ดุแบบไร้เหตุผล เรียกว่านักเรียนแพทย์ขยับตัวให้แกเห็นแกก็ด่าแล้ว พอผมไปผ่านกองศัลย์ก็เจอดี แต่ผมมันพวกมีความอดทน มีลูกเล่นพอตัว แกเลยไม่ค่อยด่าผม จนตอนหลังกลายเป็นว่าเวลาแกทำผ่าตัดผมเข้าไปช่วยได้สบายมาก แกก็เล่าเรื่องความหลังให้ฟังทำให้รู้ว่าแกไม่ค่อยชอบนักเรียนแพทย์ ม.อ.เพราะแกมีความหลังฝังใจมาจากเฮียเบสท์นี่เอง


เนื่องจากแกไม่ได้รับทุนเป็นครูแพทย์ ม.อ. จบแล้วต้องทำงานใช้ทุนก่อนจึงจะไปเรียนต่อเฉพาะทางได้ ไม่ได้อภิสิทธิ์ แกเป็นรุ่นก่อนเฮียเบสท์ ๑ รุ่นแต่ต้องไปเป็นแพทย์ประจำบ้านที่รามาธิบดีรุ่นน้องเฮียเบสท์ แกบอกว่าแกโดนเฮียเบสท์ใช้ความเป็นแพทย์ประจำบ้านรุ่นพี่โขกสับ และแย่งเคสผ่าตัดตลอด แกบอกว่าก่อนไปเรียนต่อแกก็เป็นแพทย์ใช้ทุนทำผ่าตัดมาเยอะแล้ว ถึงแกจะเป็นแพทย์ประจำบ้านรุ่นน้องแต่แกทำผ่าตัดมากกว่าเฮียเบสท์เยอะ แกเผลอเปิดหน้าเป็นอันโดนเฮียเบสท์แย่งเคส และเวลาราวน์วอร์ดกับอาจารย์ก็จะโดนเฮียเบสท์โขกสับโชว์อาจารย์ มันเลยเป็นความแค้นฝังใจตกมาถึงนักเรียนแพทย์ ม.อ.รุ่นหลัง ๆ ไปด้วย


ถึงเฮียเบสท์แกจะทำตัวเป็นหมอ เป็นนักวิชาการ แต่เฮียเบสท์แกเป็นลูกจีนที่ยึดถือความเชื่อตามคตินิยมเก่าของชาวจีน นั่นคือเมื่อถึงช่วงตรุษจีนเฮียเบสท์แกจะไม่ยอมเข้าไปที่ รพ. เพราะถือเคล็ดกลัวว่าจะได้รับสิ่งชั่วร้ายติดตัวไปทั้งปี แกต้องลา ต้องขอแลกเวรกับครูแพทย์คนอื่น........แต่ผมแอบเห็นนะว่าแกขับรถไปเปิดคลินิกทุกวัน ฮิ ๆๆ

โพสต์ล่าสุด

ดูทั้งหมด
๓๔.ครูพักลักจำ

"A good surgeon must have an eagle's eye, a lion's heart, a lady's hand." เป็นสุภาษิตโบราณของอังกฤษที่บรรยายคุณลักษณะของศัลยแพทย์หรือหมอผ...

 
 
 
๓๓.ไม่เคยต้องลอง

การเป็นศัลยแพทย์ทรวงอก หรือ CVT นี่เรียกได้หลายอย่าง ศัลยแพทย์ทรวงอกบ้าง ศัลยแพทย์หัวใจบ้าง ศัลยแพทย์หัวใจและหลอดเลือดบ้าง...

 
 
 

ความคิดเห็น


เว็บไซต์นี้จัดทำเพื่อรวบรวมรายชื่อทายาทหลวงสำเร็จกิจกรจางวาง(ตันเตียงสิ่น)ทุกสายสกุล และมีเรื่องราวต่าง ๆ ของตระกูลและท้องถิ่น รวมถึงนานาสรรพสาระต่าง ๆ

bottom of page