๑๙.เหงื่อโง่
- drpanthep
- 20 เม.ย. 2565
- ยาว 1 นาที
อย่างที่ผมมักจะพูดเสมอว่าหมอเรานี่มันกบในกะลาดี ๆ นี่เอง ยิ่งพวกครูแพทย์ยิ่งแล้วใหญ่เหมือนอึ่งอ่างพองลมในกะลาใบเล็ก ๆ พองคับกะลาเลย เข้าทำนองรู้มากยากนาน ฉลาดแต่ไม่เฉลียว
วันหนึ่งเป็นช่วงที่เพิ่งมีการเปลี่ยนทีมบริหารคณะแพทย์ ทีมบริหาร รพ.ม.อ. มีการรณรงค์ให้ช่วยกันประหยัดค่าใช้จ่าย ลดการใช้ไฟฟ้าอย่างฟุ่มเฟือย เราเห็นครูแพทย์คนหนึ่งที่เพิ่งได้เป็นผู้บริหารเดินเข้ามาที่สำนักงานภาควิชาศัลยศาสตร์ด้วยอาการหอบเหนื่อย เหงื่อท่วมตัวเหมือนคนเพิ่งไปออกกำลังกายขนาดหนักประมาณว่าวิ่งฮาล์ฟมาราธอน หลังจากซักถามจึงได้ความว่าพี่แกเดินนับจำนวนหลอดไฟตั้งแต่ชั้น ๑๓ ไล่ลงมาจนถึงชั้น ๒ เพื่อจะนำไปคำนวณว่าต้องใช้พลังงานไฟฟ้าเดือนละเท่าไหร่
เท่านั้นแหละพวกเราก็ได้หัวข้อไปทำ topic discussion ของก๊วนเลย
เราตั้งโจทย์ถามกันว่า...ถ้ามึงเป็นผู้บริหารอยากรู้ว่าตั้งแต่ชั้น ๑๓ ไล่ลงมาจนถึงชั้น ๒ มีจำนวนหลอดไฟทั้งหมดกี่หลอด มึงจะทำอย่างไร...
ได้คำตอบต่าง ๆ นานาไปตามภูมิปัญญาของครูแพทย์ก๊วนเรา เช่น ...กูจะให้คนงานแต่ละชั้นนับแล้วเอามารวมกัน... ...กูจะให้วิศวกร รพ.เอาพิมพ์เขียวมากางแล้วนับดู...
จากนั้นเราก็เข้าเรื่องว่า...แล้วมึงคิดว่าการที่ผู้บริหารเดินนับหลอดไฟด้วยตนเอง แล้วเดินลงบันไดไล่มาทุกชั้นจนเหงื่อตกนี่จะอธิบายว่าอะไร...
คราวนี้คำตอบเป็นเอกฉันท์เลยว่า คนธรรมดาเขาไม่ทำกัน ขืนทำก็ต้องเหงื่อโง่ตกแบบที่เห็นนั่นแหละ
ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมาผู้บริหารไฟแรงคนนั้นเลยถูกพวกเราแอบเรียกว่า...ท่านเหงื่อโง่....
อืม! เรื่องนี้สุ่มเสียงต่อการโดนฟ้องหมิ่นประมาท ฮิ ๆๆ
ความคิดเห็น