top of page

๒.ครูคลินิคคนแรก

  • รูปภาพนักเขียน: drpanthep
    drpanthep
  • 19 เม.ย. 2565
  • ยาว 1 นาที

การเรียนแพทย์นั้นจะต้องเรียนเป็น ๓ ช่วง คือทางวิทยาศาสตร์พื้นฐานหรือเตรียมแพทย์ ทางวิทยาศาสตร์ประยุกต์ทางการแพทย์หรือพรีคลินิก และทางการแพทย์ล้วน ๆ หรือคลินิก เราจะได้เรียนกับคนไข้จริง ๆ ตอนอยู่ชั้นคลินิก ก่อนหน้านั้นเป็นการเรียนกับกระดาษ กับสิ่งมีชีวิตที่ไม่ใช่คนตั้งแต่ไส้เดือน ปลาฉลาม หนู กระต่าย สุนัข อ้อ! เรียนกับคนก็เป็นคนที่ปราศจากชีวิต คืออาจารย์ใหญ่แล็บกรอสส์

เทอมสุดท้ายของชั้นพรีคลินิกเราจะได้แตะคนไข้ตัวเป็น ๆ พอเป็นน้ำจิ้ม ตอนเรียนวิชา Introduction to clinical medicine ซึ่งเรียนเกี่ยวกับการซักประวัติ การตรวจร่างกายระบบต่าง ๆ เช่นฟังปอดฟังหัวใจ เสียงปกติเป็นอย่างไร เสียงผิดปกติเป็นอย่างไร


ช่วงที่ขึ้นชั้นคลินิกเราจะเรียนจากคนไข้จริง ๆ กันแล้ว ต้องซักประวัติคนไข้อย่างละเอียด ตรวจร่างกายอย่างละเอียด การวินิจฉัยแยกโรค การส่งตรวจพิเศษต่าง ๆ การวินิจฉัย การรักษา แล้วเขียนรายงานส่ง

ตอนผมขึ้นชั้นคลินิกผมผ่านกองสูติ-นรีเวชเป็นกองแรก การผ่านกองสูติ-นรีเวช นอกจากการตรวจร่างกายตามที่กล่าวมาแล้ว เรายังต้องมีการตรวจภายใน มีการทำคลอด มีการผ่าตัด ก็ต้องไปเรียนรู้เทคนิคเพิ่มเติมว่าเวลาตรวจภายในต้องทำอย่างไร ล้างมือใส่ชุดผ่าตัดอย่างไรจึงจะไม่เกิดการปนเปื้อน


ครูที่สอนผมเป็นท่านแรก ที่ถือว่าเป็นครูคลินิกคนแรกเลยก็ว่าได้คือครูสุรางค์ ครูสุรางค์จบแพทย์จุฬาฯแล้วรับทุนเรียนต่อกลับมาเป็นครูแพทย์ที่ ม.อ.ยุคแรก ๆ ครูสุรางค์เป็นคนที่มีบุคลิกเคร่งขรึมจนดูเหมือนเป็นคนดุ ทั้ง ๆ ที่แท้จริงแล้วท่านเป็นครูที่ใจดีมาก ท่านเป็นผู้ที่ได้รับรางวัลครูดีเด่นของ ม.อ.

ท่านสอนตั้งแต่ข้อพึงปฏิบัติในการตรวจภายในคนไข้ตั้งแต่เรื่องการวางตัวของแพทย์ที่จะทำให้คนไข้มีความไว้วางใจให้เราตรวจอวัยวะที่ไม่เปิดให้ใครดูง่าย ๆ คนไข้ที่ขึ้นเตียงตรวจภายในจะถูกใช้ผ้าคลุมหน้าไว้ คนไข้แทบจะไม่รู้เลยว่าในขณะนั้นมีคน ๑๐ คนอยู่ในห้องตรวจ แทบจะไม่รู้เลยว่ากำลังโดนนักเรียนแพทย์ผลัดกันใช้นิ้วจิ้มตรวจภายใน สิ่งเหล่านี้เป็นเทคนิคเป็นทักษะพิเศษจริง ๆ


นอกจากสอนเทคนิคการตรวจภายใน ครูสุรางค์ยังเป็นครูผู้ที่สอนการล้างมือแปรงมือแปรงแขนด้วยสบู่ฆ่าเชื้อให้เกลี้ยงก่อนสวมชุดผ่าตัด สวมถุงมือเข้าช่วยผ่าตัด เราต้องเริ่มล้างมือและใช้แปรงถูไล่จากมือลงไปถึงข้อศอก โดยที่ต้องชูมือไว้ระดับอกให้ข้อศอกต่ำกว่ามือ เวลาใช้แปรงถูไม่มีการย้อนเพราะเวลาแปรงสิ่งสกปรกจากมือจะไหลไปตามแขนถึงศอก พอเราแปรงไล่ไปถึงศอกเป็นอันจบกระบวนการ ตั้งแต่มือถึงศอกจะสะอาดปราศจากเชื้อโรค จากนั้นก็ต้องเดินชูมือไว้อย่างนั้นไม่ให้มือและศอกไปสัมผัสอะไร ใช้ก้นดันประตูห้องผ่าตัดเข้าไป แล้วหยิบผ้าเช็ดมือมาเช็ดไล่จากปลายมือไปถึงศอกแล้วทิ้ง หยิบชุดผ่าตัดมาสวม แล้วสวมถุงมือ ตอนนี้ตัวเราต้องล่องลอยไม่ให้สัมผัสกับอะไรเลยจนกว่าจะมีการปูผ้าสะอาดคลุมคนไข้ คลุมเตียงผ่าตัดแล้ว เราจึงจะไปยืนชิดเตียงผ่าตัดได้ ช่วงแรก ๆ ก็ทำผิดทำถูกครูสุรางค์ก็จะสอนอย่างใจเย็น ทำผิดก็ทำใหม่จนกว่าจะถูกต้องทุกขั้นตอน


ช่วงที่เริ่มขึ้นชั้นคลินิกผมเลยได้พื้นฐาน ได้ทักษะจากครูสุรางค์ติดตัวมาจนกระทั่งทุกวันนี้ พูดถึงการตรวจภายในนี่มีเพื่อนผมคนหนึ่งเป็นผู้หญิงรูปร่างเล็ก มือเล็ก ผมขึ้นกองสูติ-นรีเวชครั้งแรก เธอคนนั้นอยู่กองสูติฯเหมือนกันแต่เป็นปี ๖ เธอล่วงหน้าผมไป ๒ ปี เพื่อนคนนี้คุยกับผมแล้วบอกว่า....เราเป็นหมอสูติฯไม่ได้ว่ะ นิ้วเราสั้นเวลาเราตรวจภายในเราไม่เคยบอกได้เลยว่า มดลูกคนไข้คว่ำหรือหงาย....จบแล้วเธอเลยไปเป็นวิสัญญีแพทย์ ดมยาสลบคนไข้ให้หมอสูติฯผ่าตัด


ผมก็ไม่รู้เหมือนกันนะว่าหมอสูติฯตัวเล็ก ๆ มือเล็ก ๆ เวลาตรวจภายในจะโมเมหรือเปล่าว่ามดลูกคนไข้คว่ำหรือหงาย ฮิ ๆๆ

โพสต์ล่าสุด

ดูทั้งหมด
๓๔.ครูพักลักจำ

"A good surgeon must have an eagle's eye, a lion's heart, a lady's hand." เป็นสุภาษิตโบราณของอังกฤษที่บรรยายคุณลักษณะของศัลยแพทย์หรือหมอผ...

 
 
 
๓๓.ไม่เคยต้องลอง

การเป็นศัลยแพทย์ทรวงอก หรือ CVT นี่เรียกได้หลายอย่าง ศัลยแพทย์ทรวงอกบ้าง ศัลยแพทย์หัวใจบ้าง ศัลยแพทย์หัวใจและหลอดเลือดบ้าง...

 
 
 

ความคิดเห็น


เว็บไซต์นี้จัดทำเพื่อรวบรวมรายชื่อทายาทหลวงสำเร็จกิจกรจางวาง(ตันเตียงสิ่น)ทุกสายสกุล และมีเรื่องราวต่าง ๆ ของตระกูลและท้องถิ่น รวมถึงนานาสรรพสาระต่าง ๆ

bottom of page