๒๑.ขาดครูไม่ได้
- drpanthep
- 21 เม.ย. 2565
- ยาว 1 นาที
มาต่อกันอีกสักเรื่องของครูแพทย์รุ่นพี่ผม คราวนี้เอาหมอกระดูกมาขาย พี่คนนี้แกเป็นคนวางมาดท่าทางเคร่งขรึม พูดจาขวานผ่าซาก ใครไม่รู้จักต้องคิดว่าหมอคนนี้น่าจะดุ ทั้ง ๆ ที่จริงแล้วแกเป็นคนใจดีมีอารมณ์สุนทรี แกเป็นครูแพทย์ที่จบจาก ม.อ.แล้วรับทุนอาจารย์ไปเรียนต่อเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมกระดูกมาจากโรงเรียนแพทย์เก่าแก่ฝั่งขวาแม่น้ำเจ้าพระยา
ที่ผมบอกว่าพี่คนนี้แกมีอารมณ์สุนทรี เพราะแกจะชอบทำอาหารกินเอง แล้วจิบน้ำสีอำพันพอกรึ่ม ๆ แกก็จะร้องรำทำเพลงหรือเล่าเรื่องตลก แกทำอาหารอร่อยมากด้วยเหตุผลว่า...กูเป็นลูกร้านก๋วยเตี๋ยวราดหน้าที่อร่อยที่สุดในจังหวัด...
ก่อนหน้านี้แกบอกว่าถ้าไปจังหวัดที่มีสะพานกิตติขจรข้ามแม่น้ำปิงแล้วถามหาร้านก๋วยเตี๋ยวราดหน้าที่มีลูกเป็นหมอรับรองใคร ๆ ก็รู้จัก แต่ตอนหลังแกบอกว่ามุกนี้ใช้ไม่ได้แล้ว เพราะดันมีอีกเจ้าหนึ่งลูกสอบเข้าแพทย์ได้
ช่วงที่พี่แกไปเรียนต่อเป็นผู้เชี่ยวชาญศัลยกรรมกระดูก แกไปปิ๊งกับพยาบาลประจำห้องอุบัติเหตุจนหมั้นหมายกัน พอแกกลับไปเป็นอาจารย์ที่ ม.อ.ได้ไม่เท่าไหร่ แฟนแกกับเพื่อนก็ขับรถ Datsan 120Y มาให้ที่หาดใหญ่ ช่วงนั้นพี่แกยังขับรถไม่คล่อง ก็ได้แฟนช่วยติวเข้มให้ทุกวันจนมั่นใจว่าขับได้แน่นอน ถึงวันกำหนดกลับของแฟนแก พี่คนนี้ก็ขับรถไปส่งแฟนที่สถานีรถไฟหาดใหญ่ด้วยความมั่นใจสุด ๆ ท่ามกลางความภาคภูมิใจของแฟนแกที่สามารถสอนให้แกขับรถได้อย่างมั่นใจ
หลังจากที่แฟนแกขึ้นรถไฟออกไปจากสถานีหาดใหญ่แล้ว แกก็เดินกลับไปที่รถซึ่งจอดอยู่ลานจอดรถหน้าสถานี คว้ากุญแจสตาร์ทเครื่องยนต์ปุ๊บ ความมั่นใจที่เคยมีดันหายไปดื้อ ๆ เพราะก่อนหน้านี้มีแฟนนั่งอยู่เคียงข้าง นี่กูจะต้องขับรถจากสถานีรถไฟหาดใหญ่เข้าไปที่แฟลตคณะแพทย์ ม.อ.คนเดียวหรือนี่ เท่านั้นแหละพี่แกทำอะไรไม่ถูก ไม่รู้จะต้องเข้าเกียร์ยังไง จะถอยยังไง หมุนพวงมาลัยยังไง ว่าแล้วแกก็เลยดับเครื่อง ลงจากรถไปโทรศัพท์หาเพื่อนซี้ที่เป็นหมอตา ลำบากยากเย็นพอสมควรเพราะสมัยนั้นยังไม่มีโทรศัพท์มือถือ ต้องไปหาตู้โทรศัพท์สาธารณะแล้วหยอดเหรียญเอา ที่สำคัญคือถ้าเกิดโทร.ไปแล้วเพื่อนไม่อยู่บ้านจะทำยังไงดีหว่า ยังเป็นความโชคดีของแกที่เพื่อนซี้แกอยู่บ้าน เลยให้พ่อมาส่งที่หน้าสถานีรถไฟแล้วช่วยขับรถกลับไป ม.อ.
มื้อเย็นวันนั้น พวกเรากลุ่มครูแพทย์ แพทย์ใช้ทุนชายโสดเลยเฮฮากันเป็นพิเศษ เพราะพ่อครัวทำอาหารสุดฝีมือเป็นการตอบแทนเพื่อนฝูงที่ช่วยขับรถกลับให้ พ่อครัวก็กรึ่มอย่างเต็มที่แล้วร้องเพลงแก้เขิน ส่วนพวกเราก็สรุปบทเรียนว่าถึงแม้จะเป็นครูแพทย์แต่ก็ยังขาดครูไม่ได้ แค่รถไฟที่ครูนั่งลับตาครูแพทย์ยังเหวอ
ตอนนี้พี่แกก็ลาออกจาก ม.อ.ไปหลายปีแล้ว ไปใช้ชีวิตเป็นหมอกระดูกอยู่ลุ่มน้ำบางปะกงร่ำรวยจนส่งสามารถลูกไปเรียนหมอที่นิ้วโยกของทรัมป์ ว่าง ๆ ก็อัพรูปลงเฟซให้เพื่อนฝูงและน้อง ๆ อิจฉาเล่น นี่ผมเสี่ยงมากเลย เพราะแกเป็นเพื่อนเฟซผมเสียด้วย ไม่รู้แกจะมาอ่านเจอมั๊ย ฮิ ๆๆ

ความคิดเห็น