๒๗.พอง
- drpanthep
- 21 เม.ย. 2565
- ยาว 1 นาที
ผมเคยเล่าในตอนก่อนหน้านี้แล้วว่าพวกเราเป็นครูแพทย์ เป็นข้าราชการสาย ก. ของคณะแพทย์ ของมหาวิทยาลัย เราไม่มีเจ้านายตัวจริง ทุกคนมีสิทธิเป็นหัวหน้าภาควิชา หรือเป็นผู้บริหารคณะได้ทั้งนั้น เวลาเป็นตำแหน่งบริหารเหล่านั้นมันก็มีวาระสิ้นสุดการดำรงตำแหน่ง ไม่มีใครเป็นได้ถาวร วันนี้เป็นผู้บริหารพอครบวาระวันพรุ่งนี้ก็กลับมาเป็นอาจารย์ธรรมดา มิหนำซ้ำถ้าช่วงเป็นผู้บริหารทำอะไรให้คนส่วนใหญ่ไม่พอใจ พอหมดวาระเดินไปทางไหนก็ไม่มีคนทัก
สมาชิกก๊วนครูแพทย์ปากดีของเราคนหนึ่งคือพี่บิ๊กลีได้รับการชักชวนจากคณบดีให้ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยคณบดีฝ่ายกิจการพิเศษ หน้าที่ของผู้ช่วยคณบดีฝ่ายกิจการพิเศษเป็นเรื่องพิเศษจริง ๆ คือรับผิดชอบเรื่องอาคารสถานที่ เรื่องความปลอดภัย เรื่องยานพาหนะ ต้องคุมคนเป็นจำนวนมาก ทั้งคนงาน คนสวน แม่บ้าน พนักงานขับรถ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เรียกว่าเดินไปไหนมีแต่คนยกมือไหว้ เป็นผู้มากบารมีของคณะทีเดียว ผมยังเคยได้อาศัยบารมีแกตอนที่ขับรถเฮียเต่าตกคู แกเกณฑ์ รปภ.ให้มาช่วยกันยกรถขึ้นจากคู
ต่อมาแกวางมือจากตำแหน่งนี้และโปรโมตให้ครูแพทย์รุ่นน้องแกคนหนึ่งไปนั่งเก้าอี้แทน ครูแพทย์คนนี้ปกติเป็นคนเฮฮากับพี่ ๆ น้อง ๆ เพื่อนฝูง แต่พอแกได้มีตำแหน่งได้คุมคนมากมาย ชีวิตแกเปลี่ยนไปแทบจะจากหน้ามือเป็นหลังมือ จากอดีตนักกิจกรรมกลายเป็นคนวางมาดเดินเบ่งไปทั่ว การพูดการจาก็ออกไปทางคุยโวอวดตน
เรื่องนี้ตกเป็นหัวข้อ Topic discussion ของก๊วนเราเช่นเคย เราอภิปรายออกความเห็นไปต่าง ๆ นานา สุดท้ายมีความเห็นต้องกันว่าพฤติกรรมของครูแพทย์คนนี้เหมือนกับไก่แจ้ที่พองขนอวดตัวเมีย และขู่ตัวผู้ตัวอื่น เราเลยตั้งสมญานามครูแพทย์คนนี้ว่า...พอง
ใครอยากรู้ว่า...พองคือใคร ใครคือพอง...ก็ต้องหลับตาย้อนกลับไปเมื่อ ๓๐ กว่าปีที่แล้ว มีใครที่เดินเหมือนคนเป็น bilateral axillary abscess คือเป็นฝีอักเสบที่รักแร้ทั้ง ๒ ข้าง เวลาเดินจึงหุบแขนไม่ได้ ต้องกางแขนจะได้ไม่เจ็บ ถ้ามองเห็นภาพคนนั้นนั่นและคือ...พอง...ของพวกเรา

ความคิดเห็น