๖.ครูดมยา
- drpanthep
- 19 เม.ย. 2565
- ยาว 1 นาที
หมอดมยาหรือวิสัญญีแพทย์เป็นอะไรที่คู่กับหมอผ่าตัด เพราะหมอดมยามีหน้าที่ระงับความรู้สึกให้คนไข้ที่ต้องได้รับการผ่าตัด การระงับความรู้สึกหรือการทำให้ไม่รู้สึกเจ็บป่วยในระหว่างการผ่าตัดนั้นมีหลายวิธี ตั้งแต่การฉีดยาชาเฉพาะที่ การฉีดยาชาไปตามแนวเส้นประสาท การฉีดยาชาเข้านอกโพรงเยื่อหุ้มไขสันหลัง การฉีดยาชาเข้าใต้โพรงเยื่อหุ้มไขสันหลัง ไปจนกระทั่งการทำให้สลบด้วยวิธีต่าง ๆ
ด้วยความที่หมอผ่าตัดต้องอาศัยหมอดมยา จึงเห็นความสัมพันธ์ระหว่างหมอผ่าตัดกับหมอดมยาได้หลากหลายตั้งแต่เป็นคู่ซี้แบบที่ถ้าคนนี้ผ่าต้องเป็นคนนั้นดมยาให้เท่านั้น หรือเป็นสามีภรรยากันซึ่งโดยมากสามีจะเป็นหมอผ่าตัดภรรยาเป็นหมอดมยา ผมยังไม่เคยเจอที่สลับเพศกัน แต่ก็มีไม่น้อยที่เป็นคู่กัดกันอาจจะเป็นคู่เฉพาะเช่นถ้ากูผ่าคนดมยาต้องไม่เป็นมึง ถ้ามึงผ่าคนดมยาต้องไม่ใช่กูอะไรทำนองนั้น หรืออาจจะเจอหมอดมยาบางคนฟอร์มจัดกว่าหมอผ่าตัดจะ set ผ่าตัดสักรายนี่ โอ้โห! เจาะเลือดตรวจโน่นนี่นั่นแล้วยัง ตรวจปัสสาวะแล้วยัง คนไข้งดอาหารมาเกิน ๖ ชั่วโมงแน่ ๆ นะ แต่ไอ้ฟอร์มจัดแบบนี้นี่แหละผมเจอมาแล้วตอนไปเรียนต่อเฉพาะทางที่โรงเรียนแพทย์ฝั่งขวาของแม่น้ำเจ้าพระยา อาจารย์ดมยาบางคนนี่เฮี๊ยบสุด ๆ แต่พอผมไปช่วยอาจารย์ทำผ่าตัดที่โรงพยาบาลเอกชนผมไม่เห็นแกจะเรื่องมากเลย ยังไม่ได้ผลตรวจปัสสาวะหรือ ไม่เป็นไรเดี๋ยวพี่โหลดน้ำให้ก่อนก็ได้ คนไข้เพิ่งกินอาหารเหรอ ไม่เป็นไรเดี๋ยวพี่ใช้เทคนิคพิเศษดมยาสลบให้
ผมโชคดีเป็นนักเรียนแพทย์ เป็นแพทย์ใช้ทุนจนกลับไปเป็นอาจารย์ที่คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ผมไม่เคยเห็นอาจารย์ดมยาที่เรื่องมาก ล้วนแล้วแต่ใจดีทั้งนั้น บางคนอาจจะมีบ้างตรงขี้บ่น ปากร้ายแต่ใจดี
ครูดมยาผมที่จะไม่เอ่ยถึงมิได้เลยเห็นจะเป็นอาจารย์อมรา ผู้ที่เคยเป็นกรรมการสอบสัมภาษณ์ผมตอนเอนทรานซ์เข้าเป็นนักเรียนแพทย์นั่นแหละ อาจารย์อมราเป็นผู้ที่ใจดียิ้มแย้มตลอดมีบ้างที่อาจารย์หงุดหงิดก็บ่นไปตามประสา แต่ก็ดมยาให้ราบรื่นจนผ่าตัดเสร็จเรียบร้อย
ผมเองก็เคยสร้างวีรกรรมกับอาจารย์อมราไว้เหมือนกัน ตอนนั้นผมกลับไปเป็นอาจารย์แล้ว ประมาณ พ.ศ.๒๕๓๓-๒๕๓๔ ภรรยาผมตั้งครรภ์แบบไม่มีตัวที่เรียกว่า Blighted ovum คือมีการปฏิสนธิแล้วไข่ดันฝ่อไป ไม่แบ่งตัวเติบตัวเป็นทารก หรือที่ชาวบ้านเรียกว่าท้องลม การรักษาก็ต้องขูดมดลูกเอาเนื้อเยื่อที่ผิดปกติที่ฝังตัวกับผนังมดลูกออก งานฝีมือแบบนี้ผมต้องใช้บริการเฮียหนุ่ย อาจารย์สูติ-นรีเวชคู่หูผม ช่วงนั้นภรรยาผมยังทำงานธนาคาร เฮียหนุ่ยก็สั่งไว้ว่างดน้ำงดอาหารมื้อเย็นสัก ๑ ทุ่มให้ไปนอนที่หอผู้ป่วยเตรียมขูดมดลูก คืนนั้นเป็นเวรอาจารย์อมรา เฮียหนุ่ยแกก็ set ขูดมดลูกตอน ๒ ทุ่มครึ่ง บอกอาจารย์ว่าขอไปกินข้าวมื้อเย็นก่อน พอดีกับเวลาที่คนไข้งดอาหาร ๖ ชั่วโมงพอดี ว่าแล้วเฮียหนุ่ยกับผมก็ออกไปตระเวนหาอะไรอร่อย ๆ กินกันจนติดลม กลับเข้าไปถึงห้องผ่าตัดตอน ๓ ทุ่ม ด้วยความที่เป็นเรา ๒ คน ผู้ที่ไม่เคยมีชื่อเสียงเสียหายในห้องผ่าตัด อาจารย์อมราเห็นหน้าเราก็แค่บ่นยิ้ม ๆ ว่า หายไปไหนกันมาพวกเธอ อาจารย์นั่งรอนานแล้วนะ ที่สำคัญแฟนเธอนอนใจเต้นอยู่ไม่รู้ไอ้หมอที่จะขูดมดลูกกับแฟนมันหายไปเที่ยวไหนกันจนเพลิน เฮียหนุ่ยยื่นมือไปบอกว่าอาจารย์ตีผมเลย อาจารย์อมราหัวเราะแล้วเริ่มดมยาจนขูดมดลูกเสร็จ อาจารย์เฝ้าจนภรรยาผมรู้สึกตัวดีแล้วอาจารย์จึงกลับ นี่ถ้าเป็นอาจารย์ดมยาจอมเฮี๊ยบจากฝั่งขวาแม่น้ำเจ้าพระยา เฮียหนุ่ยกับผมคงโดนด่าเละ เผลอ ๆ ดมยาสั่งงดผ่าตัดด้วย
ก็เป็นเรื่องราวของครูแพทย์อีกท่านหนึ่งของผม ปัจจุบันอาจารย์อมรามีปัญหาสุขภาพเล็กน้อยเลยเลิกดมยาแล้ว ทำตัวเป็นสาวน้อยตามสามีคืออาจารย์วิจารณ์ พานิช ไปเที่ยวที่โน่นที่นี่

ความคิดเห็น